
เส้นทางนักฆ่าจากมือปืนถึงทีมสังหารไฮเทค
ในสังคมแห่งความขัดแย้ง แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การเอาชนะผู้อื่นด้วยกำลังและความรุนแรงจะยังคงอยู่ตลอดไป เมืองไทยก็เฉกเช่นกัน บรรดามือปืนและนักเลงหัวไม้เดินกันขวักไขว่ บ้างติดสอยห้อยตามผู้มากบารมี ผู้ทรงอิทธิพล
ตลอดจนนักการเมืองหัวแถว นับจากอดีตจนถึงปัจจุบันการดำรงอยู่ของมือปืนเป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน พลิกแฟ้มคดีดังฉบับนี้จะพาไปดูวิวัฒนาการของบรรดามือปืนเหล่านี้ จากปากคำของมือปราบเมืองหลวง ผู้มีตำนานเล่าขานไม่รู้จบอย่าง "อาจารย์คง" พล.ต.ต.คงเดช ชูศรี กัน
อาจารย์คงแบ่งกลุ่มมือปืนออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ตามวัตถุประสงค์แห่งการสังหาร กลุ่มแรกคือ กลุ่มที่หวังผลประโยชน์เงินทอง กลุ่มต่อมาคือ ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณ และกลุ่มสุดท้าย เป็นมือปืนหางแถว ขอแค่มีปืนและได้รับการปกป้องจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลก็สามารถลงมือฆ่าคนได้แล้ว
เมื่อพิจารณาลึกลงไปในรายละเอียดของแต่ละกลุ่มจะพบว่า กลุ่มแรกเป็นมือปืนอาชีพ รับจ้างฆ่าคนโดยตรง จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักสืบส่วนใหญ่จะมีจุดเริ่มต้นชีวิตบนถนนสายนี้ เริ่มจากสามัญชนคนธรรมดาอาจถูกเอารัดเอาเปรียบ สังคมบีบคั้นจนกลายเป็นฆาตกรไปโดยไม่รู้ตัว บางคนก่อคดีแล้วถูกจับติดคุก แทนที่จะสำนึกผิดกลับไปเจอกับขาใหญ่ เมื่อพ้นโทษก็ติดต่อกันเรื่อยมา พอมีงานก็ชักชวนกันไปรับจ้างฆ่า กลายเป็นมือปืนอาชีพไปโดยปริยาย
"คนที่เข้าไปอยู่ในคุกจะเจอสิ่งแปลกใหม่เยอะ จากที่ไม่รู้อะไรเลยก็รู้วิธีการก่อเหตุต่างๆ มากขึ้น แทนที่จะหลาบจำคุกกลับกลายเป็นห้องเรียนใหม่ให้เขาได้เรียนรู้ เมื่อพ้นโทษออกมาก็มีพวกมาลากไปลงเหว ทำครั้งแรกได้เงินทองใช้ไม่ขาดมือ ครั้งต่อๆ ไปก็ง่ายขึ้น คล้ายกับยาเสพติด"
กลุ่มที่สองฆ่าเพื่อตอบแทนบุญคุณนั้น อาจารย์คงบอกว่า เรื่องเงินทองเป็นปัจจัยรอง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล โดยเฉพาะนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ซึ่งมักจะอุปการะเลี้ยงดูนักเลงมือปืนไว้ในสังกัด เมื่อใครมาขวางทางธุรกิจหรือขัดแย้งทางการเมือง ก็จะสั่งคนเหล่านี้ไปปลิดชีวิตด้วยวิธีการต่างๆ มือปืนกลุ่มนี้เมื่อลงมือสังหารใครแล้วก็จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ มีการส่งตัวไปกบดานยังที่ต่างๆ ไม่ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลัง เพราะครอบครัวทางบ้านจะได้รับการดูแลอย่างดี จะเห็นได้ว่าหลายคดีที่เกี่ยวพันกับนักการเมือง มือปืนมักจะหนีเข้ากลีบเมฆตามตัวไม่ค่อยจะได้ บางครั้งตำรวจชุดทำงานรู้ทั้งรู้ว่าเป็นใครทำ แต่หาพยานหลักฐานและเข้าจับกุมไม่ได้ เพราะเขาได้รับการคุ้มครองจากผู้บงการอย่างดี
ส่วนกลุ่มสุดท้าย มือปืนหางแถว มักจะก่อเหตุด้วยอารมณ์ชั่ววูบพาไป และมีพฤติกรรมชอบโอ้อวดว่าตัวเองมีปืน ตลอดจนมีผู้ใหญ่คุ้มกะลาหัวอยู่ อย่างไรก็ดี พล.ต.ต.คงเดช วิเคราะห์ความต่างและชี้ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงระหว่างมือปืนในอดีตกับปัจจุบัน ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ เมื่อ 40 ปีก่อน มือปืนมักลงมือเพียงลำพังคนเดียว เมื่อได้รับการว่าจ้างก็จะไปซุ่มดูพฤติกรรมของเหยื่อ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าควรลงมือสังหารเหยื่อช่วงไหนเวลาใดเหมาะสุด โดยจะศึกษาเส้นทางก่อเหตุและหลบหนีไว้อย่างละเอียด 30 ปีให้หลัง มือปืนเริ่มมีวิวัฒนาการมากขึ้น มีผู้ช่วยเพิ่มขึ้นมาอีกคน ทำหน้าที่ชี้เป้าหรือพาหนี กระทั่งปัจจุบันมีการทำงานกันเป็นทีม
"ปัจจุบันนี้วงการมือปืนล้ำหน้าไปมาก มีการทำงานกันเป็นทีม วางแผนรัดกุม เริ่มต้นจากชุดศึกษาพฤติกรรมเหยื่อ ศึกษาเส้นทางหลบหนีหลังก่อเหตุ ชุดชี้เป้า ชุดลงมือ ชุดคุ้มกัน และที่เห็นได้ชัดคือเริ่มใช้อาวุธหนักและไฮเทคมากขึ้น โดยเฉพาะใช้ระเบิดในการสังหารเป้าหมาย จนคำเรียกขานมือปืนในอดีตกลายเป็นทีมสังหารในปัจจุบัน"
ไม่ว่าคำเรียกขานจะแปรเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตาม แต่พฤติกรรมนอกกฎหมายเป็นสิ่งที่ตำรวจต้องดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงมือของทีมสังหารในยุคปัจจุบัน ทั้งอุกอาจและสะเทือนขวัญ ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากนักฆ่าในเครื่องแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวและกริ่งเกรงมากที่สุด !?!
ซุ้มมือปืน
สำหรับซุ้มมือปืนในเมืองไทยยังคงเป็นกลุ่มเดิมๆ แม้จะสูญสลายไปตามวัฏจักรเกิดแก่เจ็บตาย บ้างถูกกวาดล้างปราบปราม ติดคุกติดตะรางไปก็มากมายหลายคน แต่ก็พบว่ายังมีมือปืนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังลอยนวลอยู่ ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ระบุว่า เมืองไทยมีมือปืนรับจ้างหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาผู้มีอิทธิพลคนเดิมๆ แบ่งตามพื้นที่ได้ ดังนี้
บช.ภ.1 ยังเป็นพื้นที่ที่มีมือปืนฝังตัวอยู่ราว 236 คน มีซุ้มมือปืนที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่คือ ซุ้มจ่า ม. มีนักฆ่าเป็นตำรวจและทหารชั้นประทวน
บช.ภ.2 มีซุ้มมือปืนทั้งสิ้น 21 ซุ้ม แยกเป็นที่ จ.ชลบุรี มากที่สุด 11 ซุ้ม
บช.ภ.3 มีซุ้มใหญ่อยู่เพียง 2 ซุ้ม คือ ซุ้มนายสิงโต และซุ้มนายไฮ
บช.ภ.4 เป็นพื้นที่ปลอดซุ้มมือปืน แต่มีมือปืนอิสระเคลื่อนไหวอยู่ราว 41 คน
บช.ภ.5 มีซุ้มมือปืนรวม 17 ซุ้ม ซุ้มใหญ่ๆ ยังเป็นของนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับคนมีสี
บช.ภ.6 มี 8 ซุ้มมือปืน ซุ้มที่ดังที่สุด คือ ซุ้มนาย ป.
บช.ภ.7 มี 82 ซุ้มมือปืน ครองแชมป์มากที่สุด
บช.ภ.8 มี 24 ซุ้ม ส่วนใหญ่มือปืนจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช
บช.ภ.9 มีซุ้มมือปืน 11 ซุ้ม ซุ้มที่มีชื่อเสียง เช่น ซุ้มนายโต๊ะ ซุ้มนายนาเซ และซุ้มนายเจ๊ะกู
ขณะที่ บช.น.พื้นที่เมืองหลวง มีมือปืนเคลื่อนไหวอยู่ราวๆ 125 คน แต่ไม่มีซุ้มมือปืน โดย สตช.กำลังไล่ล่ามือปืนตามบัญชีข้างต้นอย่างกระชั้นชิด เพื่อป้องกันเหตุละเลงเลือด !!!