รวบ!! 'พ.ต.ต.' ขโมยรถเพื่อนใช้หนี้พนัน | คมชัดลึก

 

               ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 รวบสารวัตรสังกัดนครบาล พร้อมเมีย ขโมยรถเพื่อนใช้หนี้พนัน ประสานให้เจรจาผู้เสียหายแต่ปิดโทรศัพท์หนี ด้าน ผบช.น.สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

 

               วันที่ 6 มิ.ย.61 รายงานข่าวแจ้งว่าชุดสืบสวน กก.สส.ภ.1 จับกุมตัว พ.ต.ต.ธนวินท์ บัวหลวง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 บช.น. อายุ 35 ปี พร้อมด้วยภรรยา น.ส.ภัคจิรา มากคูณ อายุ 29 ปี ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร โดยจับกุมได้ที่บริเวณแฟลตตำรวจแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา

 

               ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 พ.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุคนร้ายขโมยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ฆพ 1713 กรุงเทพมหานคร ไปจากบริเวณลานจอดรถด้านหลัง อาคารเคหะสถาน 11 ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

 

               โดยผู้เสียหาย คือ นายกำพล เลิศศิริเภสัช อายุ 42 ปี ที่อยู่ 304 ม.6 ต.ปักเป้า อ.วังสะพุง จ.เลย ระบุว่าตนพักอาศัยอยู่ที่อาคารดังกล่าว และได้จอดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. และขึ้นไปนอนที่ห้องพักของตน ชั้น 5 ของอาคารดังกล่าวข้างต้น

 

               ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค. ผู้เสียหายได้ยินเสียงสัญญาณรถยนต์ดัง แต่ไม่ได้ลงมาตรวจสอบว่าเป็นรถของตนหรือไม่ จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ได้ลงมาจากห้องพัก พบว่ารถยนต์ของตนได้หายไป สอบถาม นิติบุคคล แจ้งว่าได้ยินเสียงสัญญาณดัง พบเห็นรถยนต์ตันดังกล่าวมีผู้ขับออกไปด้วยความเร็ว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. จากการตรวจสอบกุญแจรถยนต์คันดังกล่าว อยู่กับผู้เสียหาย ผ่อนหมด มีประกันชั้น 1

 

 

 

 

               จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ อาคารเคหะ 9 ซึ่งอยู่ติดกัน พบเห็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ ทะเบียน ฆพ 1713 กรุงเทพมหานคร ได้ถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ขับขี่ออกไปจากลานจอดรถหลังตึก เวลาประมาณ 11.05.26 น. ผ่านตลาดสหกรณ์ 3 เวลา 11.06 น. ออกถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ผ่านดับเพลิง เวลา 11.07 น.  ผ่านขึ้นสะพานข้ามถนนแจ้งวัฒนะ เลี้ยวขวาถนนสามัคคี 11.09 น. เลี้ยวซ้ายออกถนนติวานนท์ และ เวลา 11.14 น. ผ่านแยกสนามบินน้ำ เวลา 11.16 น.เลี้ยวซ้ายเข้าซอยติวานนท์ 38

 

               จากการสอบถามผู้เสียหาย แจ้งว่าก่อนหน้าที่รถยนต์ของตนจะสูญหาย มีนายธนวิน บังหลวง หรือ พ.ต.ต.ธนวินท์ บัวหลวง สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 บช.น. เพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยขอยืมรถยนต์ของตนไปใช้ ในวันที่ 21 เม.ย.2561 เวลา 05.00 น. และนำมาส่งคืน เวลา 22.00 น. ของวันที่ 22 เม.ย.2561 และหลังจากที่รถยนต์สูญหายไป ตนได้พยายามโทรติดต่อนายธนวิน ซึ่งโทรติดแต่เจ้าตัวไม่ยอมรับโทรศัพท์

 

               เจ้าหน้าที่ชุด กก.สส.บช.ภ.1 ได้ออกสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ พ.ต.ต.ธนวิน บัวหลวง ไปพักอาศัยอยู่ที่อาคารชุด วีคอนโด ประดิษฐ์มนูธรรม ท่าแร้ง บางเขน กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่คอนโดดังกล่าว จากการตรวจสอบสมุดบันทึกรายการ ชื่อและรถ ผู้ที่เข้ามาติดต่อผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโด พบว่ามี รถยนต์โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆพ 1713 กรุงเทพมหานคร เข้ามาติดต่อ ห้อง 19/70 ไม่ทราบชื่อเจ้าของห้องพักดังกล่าว แต่ชื่อนามสกุล ผู้ติดต่อคือ น.ส.ภัคจิรา มากคูณ

 

               และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทางเข้าวีคอนโด พบเห็นรถผู้เสียหาย ขับเข้ามาเวลา 05.32 น. ของวันที่ 5 พ.ค.2561 แลกบัตรผู้ติดต่อประตูทางเข้า และเข้ามาจอดรถบริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคาร หลังจากนั้นพบเห็นบุคคลลงจากรถผู้เสียหาย จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน และ หญิง 1 คน เดินมุ่งหน้ามาทางประตูทางเข้า เมื่อเดินมาถึงบริเวณประตูทางเข้าคอนโด ปรากฏว่าบุคคลทั้ง 2 คนที่ลงจากรถผู้เสียหายคือ พ.ต.ต.ธนวิน บัวหลวง และ น.ส.ภัคจิรา มากคูณ หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เข้าไปในคอนโด ตั้งแต่เวลา 05.32 น. วันที่ 5 พ.ค.61 จนกระทั่งเวลา 13.13 น.ได้ลงมาจากคอนโด และขับรถยนต์ของผู้เสียหายออกไป หลังจากนั้น เวลา 14.24 น.ได้กลับเข้ามาที่คอนโด อีกครั้ง และขับออกไปจากคอนโดดังกล่าว

 

 

 

 

               พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จับกุมผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ผ่านมา ไปดักจับที่พัก ไม่ได้มอบตัวแต่อย่างใด ได้ทั้งตัวสารวัตรและผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นภรรยาที่ร่วมก่อเหตุ คาดว่าสารวัตร น่าจะติดพนันจึงก่อเหตุลงมือขโมยรถเพื่อนที่รู้จักกัน โดยก่อนหน้านี้ได้พยายามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานผู้ก่อเหตุให้มาคุยกับผู้เสียหาย เพราะตำรวจที่เป็นผู้ต้องหากับผู้เสียหาย รู้จักกัน แต่ตามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมา กลับปิดโทรศัพท์หนีไป จึงต้องไปดักจับ
 

               พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวว่า สำหรับ พ.ต.ต. สังกัด บก.น.4 ที่ไปก่อเหตุลักรถยนต์นั้น คดีดังกล่าวเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ บช.ภ.1 เมื่อพบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าวจริง ก็จะสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป