
ชายต้องคดีพรากผู้เยาว์-ซึมเศร้าเครียดปีนลูกกรงห้องขังศาล
ชาย 35 ปี ปีนลูกกรงศาล ห่วงถูกขังไร้คนดูลูกน้อย 2 ขวบ ศาลอาญา กท.ใต้แจงไม่ใช่เคสคนโดดที่สูง สุดท้ายเข้าระบบประเมินความเสี่ยง ได้ประกัน 2 หมื่น-ติดกำไลข้อเท้า EM
จากที่มีการรายงานสถานการณ์ผ่านทวิตเตอร์ ระบุวันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 15.10 น. มีผู้จะกระโดดจากที่สูง ภายในศาลอาญากรุงเทพใต้พื้นที่เขตสาทร เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงยานนาวาอยู่ระหว่างตรวจสอบนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้รับข้อมูลชี้แจง จากศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ตั้ง ถ.เจริญกรุง 63 ว่า กรณีดังกล่าว เป็นสถานการณ์ที่ผู้ต้องหาชาย อายุ 35 ปี ซึ่งถูกยื่นฟ้องคดีเกี่ยวกับความผิดต่อเสรีภาพ (พรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอานาจาร) แล้วเกิดความเครียด ระหว่างถูกควบคุมตัวในห้องคุมขัง ภายในอาคารศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่บริเวณชั้น 1
ซึ่งผู้ต้องหาชาย เมื่อมีการอาการเครียดเพราะเป็นห่วงเรื่องการประกันตัว ได้ปีนซี่ลูกกรง ห้องคุมขังที่มีความสูงประมาณ 3 เมตรที่อยู่ภายในอาคาร กระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยกันเกลี้ยกล่อมพูดคุย จนผู้ต้องหาชายนั้นได้สติคืนมาจึงนำตัวลงมาพูดคุยอีกครั้ง ซึ่งการพูดคุยผู้ต้องหาและซักถามญาติ จึงทราบว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า บวกกับความเครียดกลัวว่าจะไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราว เพราะกังวลเรื่องที่จะต้องดูแลบุตรสาววัย 2 ขวบที่ป่วยโรคทางเดินหายใจด้วย ส่วนภรรยาก็เดินทางไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่และศาล ก็ได้แจ้งให้ผู้ต้องหาและญาติทราบถึงแนวทางการประกันตัว ซึ่งขณะนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็เป็นหนึ่งในศาลนำร่องใช้ระบบประเมินความเสี่ยง และกำไลข้อเท้า EM ในการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีหลักประกัน หรือกรณีหลักประกันไม่เพียงพอ สำหรับผู้มีฐานะยากจนที่ต้องผ่านการประเมินความเสี่ยงที่จะไม่หลบหนี
โดยเจ้าหน้าที่ศาล ก็ได้นำตัวผู้ต้องหาชายที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยแล้ว มาสอบถามประวัติและตอบคำถามตามขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง เพื่อพิจารณาการปล่อยชั่วคราวว่าจะเป็นแนวทางอย่างไร
ทั้งนี้สำหรับแนวทางการพิจารณาสั่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราว กรณีมีการแสดงความประสงค์ขอใช้อุปกรณ์ (กำไลข้อเท้า) EM มีได้ 2 กรณี คือ 1.กรณีคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 5 ปี ศาลอาจจะปล่อยชั่วคราวได้ โดยไม่ต้องมีหลักประกันและให้ใช้ EM ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาลที่จะพิจารณา
2.กรณีคดีมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 5 ปี ศาลจะสั่งปล่อยชั่วคราวได้ โดยจะต้องให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยทำสัญญาประกันและวางหลักประกัน ส่วนกรณีที่มีหลักประกันไม่เพียงพอ ศาลอาจสั่งใช้ EM ได้ หรือศาลอาจลดวงเงินประกันเหลือ 20 % ของเกณฑ์ประกันนั้น ร่วมกับการใช้ EM
ล่าสุดมีรายงานล่าสุด แจ้งว่า ศาลได้พิจารณาผลการประเมินความเสี่ยงประกอบการใช้ดุลยพินิจแล้ว ก็ให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยชายคนดังกล่าวไป โดยคดีที่ฟ้องนั้นอัตราโทษสูงเกินกว่า 10 ปีซึ่งเกณฑ์วงเงินประกันปกติจะอยู่ที่ 150,000 บาท แต่ศาลใช้ดุลยพินิจแล้วจึงให้วางเงินประกันจำนวน 20,000 บาท พร้อมกับติดกำไลข้อเท้า EM
อย่างไรก็ดี การใช้อุปกรณ์ (กำไลข้อเท้า) EM ของศาลยุติธรรมนั้น เริ่มมาแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค.61 ในศาลนำร่อง ศาลอาญา , ศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลอาญาธนบุรี กับศาลในภูมิภาคทั่วประเทศรวม 23 แห่งจากจำนวนเครื่องที่มีทั้งหมด 5,000 เครื่อง โดยมีศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Center) ที่ติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่จำนวนมากคล้ายศูนย์ปฏิบัติการจราจรขนาดใหญ่ ที่แสดงพิกัดของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ใส่กำไล EM เพื่อจะติดตามดูพิกัดตำแหน่งในของกำไล EM ที่ใช้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศว่าตำแหน่งที่อยู่คือจุดใด ออกนอกพื้นที่หรือไม่ ซึ่งศูนย์นั้นตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ศาล ย่านรัชดาภิเษก
สำหรับ 23 ศาลนำร่องใช้อุปกรณ์ (กำไลข้อเท้า) EM ประกอบด้วย ศาลอาญา 600 เครื่อง , ศาลจังหวัดมีนบุรี 600 เครื่อง , ศาลอาญากรุงเทพใต้ 300 เครื่อง , ศาลอาญาธนบุรี 300 เครื่อง , ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 50 เครื่อง และ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 (จ.สระบุรี) , ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 (จ.สุรินทร์) ,ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 (จ.ขอนแก่น) , ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 5 (จ.เชียงใหม่) , ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 6 (จ.พิษณุโลก) ,ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 8 (จ.นครศรีธรรมราช) และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 (จ.สงขลา) แห่งละ 50 เครื่อง , ศาลจังหวัดจันทบุรี 300 เครื่อง ,ศาลจังหวัดพัทยา 200 เครื่อง, ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ 200 เครื่อง, ศาลจังหวัดขอนแก่น 200 เครื่อง , ศาลจังหวัดเชียงใหม่ 300 เครื่อง , ศาลจังหวัดพิษณุโลก 200 เครื่อง ,ศาลจังหวัดนครปฐม 300 เครื่อง , ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช 300 เครื่อง , ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี 300 เครื่อง และ ศาลจังหวัดสงขลา 300 เครื่อง.



