
อำเภอพบพระ ไม่ได้พบพระ
พบพระ เป็นชื่ออำเภอแห่งหนึ่งใน จ.ตาก มีชายแดนติดกับประเทศพม่า
ฟังชื่อแล้ว สงสัยว่าพื้นที่ดังกล่าวต้องเคยมีการพบพระพุทธรูป หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นที่มาของชื่ออำเภอแห่งนี้ แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ?
จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในท้องถิ่น แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นหมู่บ้านซึ่งเรียกกันว่า “บ้านเพอะพะ” ซึ่งเป็นที่ราบสูงระหว่างภูเขา รับลมมรสุมมาก ดังนั้นพื้นที่แห่งนี้จึงมีฝนตกชุก อีกทั้งเส้นทางการคมนาคมสมัยก่อนไม่สะดวกเมื่อฝนตกหนักทางก็มีแต่โคลนตม ชาวบ้านเวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องเดินลุยโคลน ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ขี้เปรอะเพอะพะ” หมายความว่า ถ้าใครผ่านไปแถบขาแข้งจะมีแต่ขี้โคลนที่เปื้อนเปรอะเลอะเทอะ จึงเรียกบริเวณนี้ว่าบ้านเพอะพะ
เขตพื้นที่อำเภอพบพระเดิม อยู่ในเขตการปกครองของ ต.ช่องแคบ อ.แม่สอด จ.ดตาก ต่อมาได้มีการเสนอแยกจาก ต.ช่องแคบ จึงให้ชื่อตำบลใหม่ว่า “ต.พบพระ” เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเดิม และให้ได้ความหมายเป็นสิริมงคล
ต่อมา มีการตั้งตำบลดังกล่าวเป็นกิ่งอำเภอ เนื่องจากอำเภอแม่สอดมีพื้นที่กว้างขวาง มีอุปสรรคต่อการปกครองดูแลราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ช่องแคบ และ ต.พบพระ มักจะมีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์แทรกซึมเข้ามา
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้งให้ ต.พบพระ เป็น “กิ่ง อ.พบพระ” เมื่อ พ.ศ.2520 และในปี พ.ศ. 2530 ได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็น “อ.พบพระ” นับแต่นั้นมา
ปัจจุบัน อ.พบพระ เป็นแหล่งปลูกดอกกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะน้ำตก และยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่างที่เราอาจไม่เคยรู้ เหมือนที่มาของชื่ออำเภอ ซึ่งทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดมาเนิ่นนาน
"เรือนอินทร์ หน้าพระลาน"



