ภาพและคลิปที่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เผยแพร่ หลังพบหนสองกับมุนแจอินแบบสายฟ้าแลบ เผยความวิตกของคิมจองอึน
การประชุมสุดยอดครั้งที่สอง ที่หมู่บ้านปันมุมจอม ในเขตปลอดทหาร แบบไม่มีประกาศล่วงหน้า ระหว่างประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้กับ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา( 26 พ.ค.) สร้างความประหลาดใจ
( ประชุมสุดยอดเมื่อ 27 เมษายน )
แม้เทียบไม่ได้กับความตื่นเต้นที่มีต่อการประชุมครั้งแรกเมื่อ 27 เมษายนที่ผ่านมา แต่ก็มีความน่าสนใจในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่า บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลี จะไปทางไหน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เล่มเกมไม่อยู่กับร่องกับรอย วันหนึ่งประกาศยกเลิกประชุมสุดยอดเพราะเกาหลีเหนือไม่เป็นมิตร อีกวันเปลี่ยนใจว่ายังไม่แน่ เพราะเกาหลีเหนือแสดงท่าทีสร้างสรรค์
โคเรีย ไทมส์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในการมาพบกันครั้งที่สองนี้ ตาของคิมจองอึน ส่อความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะเกิดจากการนอนน้อย หรือเพราะมีเรื่องกังวล ผู้นำหนุ่มไม่ได้เปิดยิ้มสดใส เหมือนกับที่เคยเห็นในการประชุมเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
ซึ่งสื่อเกาหลีใต้สำนักนี้ วิเคราะห์ว่า เกาหลีเหนือลองใช้อุบายยึกยักเดิมๆกับประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อความได้เปรียบ แต่ไม่ได้ผล
เกาหลีเหนือยกเลิกนัดประชุมระดับสูงทางทหารกับเกาหลีใต้ อ้างว่าไม่พอใจการซ้อมรบของสหรัฐกับเกาหลีใต้ ไม่ไปพบทีมงานเตรียมประชุมสุดยอดกับสหรัฐที่สิงคโปร์ หลังแสดงความไม่พอใจกับความเห็นเชิงกดดันของที่ปรึกษาความมั่นคงสหรัฐ และกีดกันนักข่าวเกาหลีใต้ไม่ให้เข้าร่วมสังเกตการณ์การระเบิดทำลายอุโมงค์ศูนย์ทดลองนิวเคลียร์ช่วงหนึ่ง
แต่ทรัมป์ไม่หลงกล ส่งจดหมายบอกผู้นำที่มีวัยอ่อนกว่าครึ่งหนึ่ง ว่าขอยกเลิกประชุมที่สิงคโปร์ทำให้เกาหลีเหนือตื่นตระหนก ออกแถลงการณ์ที่แทบเป็นการขอโทษกลายๆ และขอให้ทบทวนอีกที ซึ่งทรัมป์ก็ไม่ได้คิดนานราวกับว่าคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว ออกมาบอกประชาคมโลกทันทีว่านัดเจอ 12 มิ.ย.อาจยังคงอยู่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเกาหลีเหนือจะทำตัวอย่าไร
ความวิตกนี้ สะท้อนผ่านถ้อยแถลงของประธานาธิบดีมุน แจ อิน ที่แถลงในกรุงโซลว่า ผู้นำเปียงยางยังยืนยันชัดเจนว่า จะปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสิ้นเชิง แต่ที่ยังไม่วางใจและไม่ชัดเจนก็คือ รัฐบาลวอชิงตันจะให้หลักประกันความมั่นคงปลอดภัยของระบอบเปียงยางระดับไหน หากเขาปลดอาวุธนิวเคลียร์แล้ว
“แต่อีกด้าน ประธานาธิบดีทรัมป์บอกผมระหว่างประชุมสุดยอดที่วอชิงตันเมื่อวันอังคาร ว่าหากเกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐไม่เพียงจะยุติความสัมพันธ์แบบเผชิญหน้า แต่สหรัฐพร้อมจะช่วยให้เกาหลีเหนือประสบความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ”
ใครนัดแล้วทำไมต้องปิดเงียบหลายชม.
เมื่อบ่ายวันศุกร์ คิมจองอึน เป็นฝ่ายติดต่อขอนัดประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีมุนครั้งที่ 2 ที่อาคารทงกิลคัก เขตปลอดทหารฝั่งเกาหลีเหนือ การประชุมใช้เวลา 2 ชม. ระหว่าง 15.00-17.00 แต่ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงเรื่องการพบกันเมื่อเวลา 19.50 น. และนัดแถลงรายละเอียด 10.00 น.ของวันอาทิตย์
ประธานาธิบดีมุน กล่าวว่า เกาหลีเหนือขอนัดประชุม หลังจากสถานการณ์สับสน 24 ชม.ก่อนหน้า ซึ่งเขาก็ตอบรับข้อเสนอด้วยความยินดี ส่วนเหตุที่เพิ่งแถลงรายละเอียดในช่วงสายวันอาทิตย์ ก็เป็นไปตามคำร้องขอของผู้นำเกาหลีเหนืออีกเช่นกัน เพราะต้องการให้เวลากับสื่อในประเทศเตรียมนำเสนอข่าว
ต่อข้อถามอีกครั้งถึงความจริงใจของเกาหลีเหนือที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำเกาหลีใต้ ยกเรื่องการทำลายศูนย์ทดลองระเบิดนิวเคลียร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ก็ยอมรับว่า หนทางสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์สิ้นเชิง และสันติภาพสมบูรณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนกับการปีนเขาที่จะยิ่งยากลำบากเมื่อเริ่มมองเห็นยอดเขาอยู่ลิบๆ แต่เขาก็จะพยายามไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้ด้วยหน้าที่และอำนาจที่ประชาชนมอบให้ ซึ่งเขาหวังว่าชาวเกาหลีจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน
(สวมกอดขณะร่ำลา )
อีกด้าน โคเรียไทมส์ ระบุว่าการประชุมกับทรัมป์ คือบททดสอบยากที่สุดและอาจเผยตัวตนผู้นำเกาหลีเหนือรุ่น 3 ว่าเป็นอย่างไร และจะเป็นการทดสอบที่จะส่งแรงกระเพื่อมทั้งภายในและภายนอก
โดยเฉพาะภายใน ความล้มเหลวทางใดทางหนึ่ง คิมอาจสูญเสียฐานอำนาจ ซึ่งเป็นความกลัวในหมู่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา คนที่เคยสนับสนุนและภักดีกับบิดาและปู่เพราะหวังจะรักษาสถานะอำนาจของตนเอง อาจรู้สึกว่าจะต้องมองหาหนทางอื่นเพื่อรักษาอภิสิทธิ์เอาไว้ต่อไป โดยมาก เผด็จการมักอยู่ไม่ได้ เมื่ออำนาจเบ็ดเสร็จที่เคยกุมไว้เกิดรอยร้าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง