
เร่งออกประกาศยกเว้นภาษีสปาเปิดกว้างแหล่งท่องเที่ยว-โรงแรม
สรรพสามิตเร่งออกประกาศยกเว้นภาษีธุรกิจสปา ขีดเส้นต้องเป็นสปาที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานจากสาธารณสุขเท่านั้นพร้อมเปิดช่องสปาในโรงแรมและตามแหล่งท่องเที่ยว คาดสูญรายได้แค่ 42 ล้านบาท
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบยกเว้นการจัดเก็บภาษีธุรกิจสปา จากเดิมที่จัดเก็บอัตรา 10% ของรายรับ ขณะนี้กรมกำลังดำเนินการแก้ไขประกาศกรม เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีให้สถานบริการประเภทอาบน้ำหรืออบตัว และนวดในสถานบริการเสริมความงามหรือเพื่อสุขภาพ ยกเว้นกรณีของสถานบริการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการอาบ อบ นวด โดยมีอ่างอาบน้ำ หรือสถานที่อาบน้ำในห้องเดียวกันกับห้องให้บริการนวด ไม่ว่าจะมีการแยกสัดส่วนระหว่างส่วนที่มีอ่างอาบน้ำหรือสถานที่อาบน้ำกับส่วนให้บริการนวด โดยมีประตูกั้นหรือไม่ก็ตาม และจัดให้มีสถานที่ รูป หรือสื่อ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกผู้ให้บริการได้ ส่วนสปาที่ได้รับยกเว้นต้องเป็นสถานบริการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นสปาในโรงแรมและสปาตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ก็ตาม
ทั้งนี้ ในรอบ 11 เดือนของปีงบประมาณ 2552 มีสถานประกอบการที่จดทะเบียนเป็นสถานบริการประเภทอาบน้ำหรืออบตัวและนวดกับกรมสรรพสามิต จำนวน 565 ราย แบ่งเป็นธุรกิจสปา 420 ราย และธุรกิจอาบ อบ นวด จำนวน 145 ราย กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีได้ 151.62 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจสปา 42.58 ล้านบาท และธุรกิจอาบ อบ นวด 109.04 ล้านบาท ซึ่งหากมีการยกเว้นภาษีจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 42 ล้านบาท
"การยกเว้นภาษีให้ธุรกิจสปานั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสปาให้มีศักยภาพในการแข่งขันสู่ระดับสากล และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการให้บริการสปา รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถให้แข่งขันกับต่างประเทศได้" นายอารีพงศ์ กล่าว