ข่าว

ตำรวจตั้ง3ข้อหาหนักมือฆ่าหั่นศพเด็ก

ตำรวจตั้ง3ข้อหาหนักมือฆ่าหั่นศพเด็ก

14 ต.ค. 2552

คุมมือฆ่าหั่นศพค้นห้องพบหลักฐานเพียบและพบคราบเลือดรอยกระ สุนบนเบาะรถแท็กซี่คันที่ใช้ก่อเหตุ "ลุงโจ"เพื่อนแม่เหยื่อฆ่าหั่นศพ เชื่อปมฆ่าเพื่อล้างหนี้ ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก

(14ต.ค.) ที่สน.ตลิ่งชัน เวลา 00.10 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (รองผบก.น 7) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.น.7 สน.ตลิ่งชัน และกองปราบปราม คุมตัวนายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี มือฆ่าหั่นศพไปชี้จุดทิ้งชิ้นส่วนศพของน้องโชว์เด็กวัย 5 ขวบ เหยื่อฆ่าหั่นศพที่ริมถนนราชพฤษ์  แขวงและเขตตลิ่งชัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามค้นหานิ้วมือของน้องโชว์ ที่ยัดใส่ถุงพลาสติกของเซเว่นอีเลฟเว่น ที่หายไป

ภายหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวนายศิริพงษ์ ไปตรวจค้นห้องเลขที่ 35/33 อาคาร 48 การเคหะเอื้ออาทร โครงการบางบัวทอง 1 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ขณะที่นำตัวนายศิริพงษ์ไปตรวจค้นที่ห้องพักมีชาวบ้านมายืนรอดูจำนวนมาก ต่างก็บอกว่านายศิริพงษ์ เป็นคนเงียบไม่ค่อยพูดคุยสุงสิงกับใคร 

โดยห้องพักดังกล่าวมีห้องนอน 2ห้อง จากการตรวจค้นพบกระเป๋าเสื้อผ้า 3 ใบ ปลอกกระสุนปืน 12 นัด กระสุนปืน.38 ที่ไม่ได้ใช้อีก 36 นัด อุปกรณ์โหลดกระสุนปืน เสื้อผ้าของน.ส.สุนันท์ ศรีสุวรรณ เหยื่อกระสุนปืนของนายศิริพงษ์ พาสปอร์ตผู้ตายถูกฉีกทิ้งในถังขยะ มีดที่ใช้หั่นศพ รองเท้าผ้าใบของผู้ต้องหาเปื้อนเลือด และเช็คเงินสดของผู้ตาย 6 แสนบาท นอกจากนี้ยังพบกระสุนปืน.38 ตกอยู่ริมอาคารอีก 1 นัด

อย่างไรก็ตามสำหรับแหวนเพชร และนาฬิกาโรเล็กซ์ของผู้ตาย ไม่พบในห้องพัก โดยนายศิริพงษ์ อ้างว่า น่าตกอยู่บริเวณทิ้งศพผู้ตายในพื้นที่สภ.ลาดหลุมแก้ว ส่วนวิกผมที่อยู่ในถุงศพด.ช.นั้นเป็นวิกผมของน้องมิ้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทล 5979 กทม.ที่ใช้ในวันก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่ข้างอาคารพบคราบเลือดอยู่เบาะหลัง และรอยกระสุนปืน 2 รู ที่เบาะหลังเช่นกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายศิริพงษ์ พร้อมหลักฐานที่ยึดได้มาสอบสวนที่สน.ตลิ่งชัน ต่อไป

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ให้สัมภาษณ์รายการ"เช้านี้ที่หมอชิต"ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 ว่า  การมอบตัวของ นายศิริพงษ์ และคำให้การนั้น ยืนยันว่าเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแน่นอน ไม่ได้จับแพะเพราะคำรับสารภาพกับหลักฐานต่างๆ เชื่อมโยงเป็นขั้นตอนเดียวกันหมดทุกอย่าง แต่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การบางอย่างว่าผู้ต้องหาฆ่าเพราะต้องการประสงค์ต่อทรัพย์สินผู้ตายหรือไม่ เพราะทรัพย์สินบางอย่างของผู้ตายหายไปบางส่วน

 สาเหตุที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว เพราะคาดว่าอีกไม่นานตำรวจจะตามจับกุมตัวได้แน่นอน เพราะว่าสามารถเชื่อมโยงศพที่ไปทิ้งในพื้นที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว กับศพเด็กที่ถูกหั่นเชื่อมโยงกัน ดังนั้นผู้ต้องหาจึงไปหาแม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังหมด กระทั่งแม่บอกให้เข้ามอบตัว รวมถึงผู้ต้องหาก็ไปพบพี่สาวของภรรยาเก่าเพื่อฝากฝังลูกให้เลี้ยงดูหากต้องติดคุก ซึ่งต้องไปสอบสวนทั้งสองคนเช่นกัน

 พล.ต.ต.อำนวย กล่าวอีกว่า คำให้การผู้ต้องหาที่อ้างว่ายิงผู้ตาย โดยไม่ได้เล็งนั้น ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ตั้งใจฆ่าทั้งสามคนหรือไม่ ส่วนจะมีคนอื่นร่วมหรือไม่นั้น ยังไม่ตัดประเด็นทิ้ง แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานพยานเชื่อมโยงไปว่ามีคนอื่นด้วยหรือไม่ ล่าสุดตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสุวรรณภูมิ ยืนยันชัดเจนว่าผู้ต้องหาไปรับผู้ตายและลูกๆ จริง ซึ่งเสื้อผ้าที่ผู้ตายลงจากเครื่องบินกับศพเป็นชุดเดียวกัน  
 
ด้านพล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น.กล่าวผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 3 ว่า นายศิริพงษ์เป็นผู้ต้องหาตัวจริงพันเปอร์เซ็นต์ แม้น้องมินท์จะให้การอีกอย่าง แต่เชื่อว่าคนใกล้ตายคงไม่พูดโกหกแน่ ที่สำคัญน้องมินท์เป็นเด็กฉลาด แต่ที่พูดมาทั้งสองคนไม่เหมือนกัน ยืนยันว่าหลังสอบปากคำน้องมินท์ ก็บอกว่า นายศิริพงษ์ชิงทรัพย์แม่ 

นายโจ เพื่อนของน.ส.สุนันท์ ศรีสุวรรณ กล่าวว่า รู้จักผู้ตายนานแล้วโดยผู้ตายเคยมีสามีอยู่ที่ จ.ชลบุรี มีลูกด้วยกันคือ น้องมินท์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บและอยากพบตน แต่ยังไม่มีโอกาสได้พบเนื่องจากตนอยู่ต่างจังหวัด ส่วนสามีคนที่สองของผู้ตายเป็นชาวญี่ปุ่น โดยผู้ตายได้เดินทางไปอยู่กับสามีที่ประเทศญี่ปุ่นและมีลูกด้วยกันคือน้องโชว์ แต่ภายหลังผู้ตายทราบว่าสามีมีครอบครัวแล้วจึงพยายามตีตัวออกห่าง ทุกครั้งเมื่อเดินทางมาประเทศไทยก็จะนำลูกทั้ง 2 คนมาฝากให้ตนดูแล จึงสนิทสนมกับเด็กทั้งสอง และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้คุยกับผู้ตายครั้งสุดท้ายว่าเตรียมจะเดินทางกลับมาประเทศไทย กระทั่งมาทราบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต

ที่นายศิริพงษ์ผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายบีบบังคับให้ฆ่าสามีคนแรกนั้น ไม่น่าเป็นไปได้เนื่องจากผู้ตายเป็นคนใจดี ชอบช่วยคนอื่น ใครพูดว่าเดือนร้อนเรื่องเงินก็จะให้เงินไปโดยไม่เสียดาย ซึ่งส่วนตัวคาดว่าอาจเป็นเรื่องหนี้สินที่นายศิริพงษ์ ยืมจากผู้ตาย เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบ่นให้ฟังว่านายศิริพงษ์ เอาเงินไปหลายแสนถึงหลักล้านจึงต้องการทวงเงินคืนและพยายามเร่งรัดให้จ่ายหนี้คืน เป็นไปได้ว่านายศิริพงษ์ ไม่มีเงินใช้หนี้จึงต้องฆ่าเพื่อล้างหนี้สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้(14ต.ค.) พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.ประเสริฐ สีตลาศัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน และ พ.ต.ท.ธนพล บินทปัญญา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ตลิ่งชัน ได้ขออนุมัติศาลอาญารัชดา เพื่อออกหมายจับ นายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาฆ่านางสุนันท์ ศรีสุวรรณ หรือมาคิโน อายุ 38 ปี และ ด.ช.โชว์ มาคิโน ลูกชายวัย 5 ขวบของนางสุนันท์ และกระสุนยังพลาดไปถูก ด.ญ.พิชยา หรือน้องมิ้นท์ อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลพระราม 9

 โดยศาลอาญารัชดา อนุมัติหมายจับศาลอาญารัชดา ที่ จ. 2939/2552 ลงวันที่ 14 ต.ค. ข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.พกพาอาวุธปืน และ3.ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขัง พร้อมของกลางกว่า 18 รายการ อาทิ มีดปังตอที่ก่อเหตุ อาวุธปืน .357 พร้อมเครื่องกระสุน รถแท็กซี่สีชมพู โตโยต้าอัลติส ทะเบียน ทล 5979 กทม.

ทั้งนี้ช่วงเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่นำตัวนายศิริพงษ์ ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพตามจุดต่างๆ ที่ลงมือก่อเหตุ 14 จุด โดยจะเริ่มตั้งแต่จุดแรกคือ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่นายศิริพงษ์ไปรับนางสุนันท์ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น จากนั้นไปถนนวงแหวนตะวันตก ไปบ้านพักที่บางบัวทอง ย้อนกลับไปอ.ลาดหลุมแก้ว แล้วจึงวกกลับไปบ้านพักที่บางบัวทอง ก่อนมาตามถนนราชพฤกษ์ที่นำชิ้นส่วนของน้องโชว์ มาทิ้งที่หมู่บ้านพิมาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านร้าง โดยจะกำลังคุ้มกันอย่างเต็มที่เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะรุมประชาทัณฑ์ 

 ด้านนายศิริพงษ์ กล่าวผ่านห้องขังด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ตนเคยมีครอบครัวมาก่อน ก่อนมาพบกับนางสุนันท์ โดยมีลูก 3 คน คนโตเป็นหญิงอายุ 18 ปี คนกลางเป็นหญิง 13 ปี เท่าน้องมิ้นท์ และคนเล็กเป็นชายอายุ 10 ปี ขณะนี้ถือศีลอยู่กับมารดาที่วัดเกตุม ย่านสมุทร สาคร ส่วนภรรยาได้เลิกรากันไปกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุที่ฆ่านางสุนันท์นั้น ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่เกิดจากโมโหที่นางสุนันท์ พยายามบังคับให้ตนไปฆ่าสามีชาวญี่ปุ่น แล้วตนพยายามสอบถามว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่นางสุนันท์ ไม่ยอมเล่าให้ฟัง

 นายศิริพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทราบว่านางสุนันท์ ได้ไปมีแฟนใหม่ทราบเพียงชื่อเล่นว่า "ทูล" อยู่ย่านนครปฐม ซึ่งตนบังเอิญได้ยินผ่านทางโทรศัพท์มือถือขณะที่นางสุนันท์ พูดคุยเพราะเกิดผิดพลาดเป็นการคุย 3 สาย ทำให้ตนได้ยินว่านางสุนันท์ ปรึกษากับนายทูลว่าจะลงมือฆ่าตนด้วยวิธีไหนดี จึงทำให้เกิดความระแวงมาตลอด อีกทั้งเมื่อ 2 เดือนก่อนมีสายจากชายลึกลับโทรเข้ามาข่มขู่ตลอด จนต้องเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ย่อยบางบัวทอง ตรงด้านหน้าวัดละหาร เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกรณีมีคนขู่ทำร้าย เหตุนี้เมื่อนางสุ นันท์ เดินทางกลับมาจากเมืองนางิตะ ประเทศญี่ปุ่นแล้วให้ตนไปรับที่สนามบิน จึงกลัวว่าจะมีคนลอบทำร้ายจนต้องนำปืนติดตัวไปด้วย แต่ระหว่างทางมีปากเสียงกันเรื่องเดิมๆ คือบังคับให้ไปฆ่าคน ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ ชักปืนยิงโดยไม่ได้มอง 

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ โดยขณะนี้ให้ความสนใจไปที่รอยสักบริเวณแขน 2 ข้าง ที่สีสันฉูดฉาดสะดุดตา และลวดลายมีความละเอียดอ่อน ซึ่งคาดว่าไม่น่าเป็นการสักในไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีแก๊งชาวญี่ปุ่นถูกจับกุมมาก่อนโดยชุดจับกุมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในขบวนการยามากูจิ ซึ่งเป็นแก๊งย่อยยากูซ่าที่เข้ามาแผ่ขยายอำนาจในประเทศไทย ย่านสีลม พัฒนพงศ์ โดยมีทั้งรูปแบบของเก็บค่าคุ้มครอง ค้าผู้หญิง ทั้งนี้จะมีหัวหน้าแก๊งเป็นชาวญี่ปุ่น 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่า จะมีการเกี่ยวโยงกับแก๊งดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่านางสุนันท์ถูกใบสั่งฆ่า เนื่องจากขัดผลประโยชน์ธุรกิจก็อาจเป็นได้ เพราะนางสุนันท์ เคยทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองนางิตะ และยังเดินทางไปกลับประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง