
ลุ้น ! พิพากษาคดี "เปรี้ยว หั่นศพ" วันนี้
ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดฟังคำพิพากษาตัดสินคดี "ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม"แล้ววันนี้ หลังจากใช้เวลาพิจารณาคดีร่วม 9 เดือน
บ่ายวันนี้ ( 10 พ.ค) เวลา 13.30 น. ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดฟังคำพิพากษาของศาลชั้นต้น คดี “ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม” น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย ที่ถูกฆาตกรรมด้วยการฆ่าและหั่นศพเป็น 2 ท่อน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะนำศพไปฝังอำพรางในพื้นที่อำเภอเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
คดีนี้พนักงายอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น , น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิตหรือ แจ้ , นายวศิน นามพรหม หรือ นิว และ น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรมคุณ รวม 5 คน เป็นจำเลย
โดยจำเลย 4 คนแรก ถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ , ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ส่วน น.ส.เบนซ์ จำเลยที่ 5 ถูกตั้งข้อหารับของโจรเพียงข้อหาเดียว
นายอมรพงศ์ จันทร์กวี ทนายความนางสาวเปรี้ยว จำเลยที่ 1 และนางสาวเอิร์น จำเลยที่ 2 กล่าวว่า ในวันฟังคำพิพากษา ศาลจังหวัดขอนแก่น จะมีการเบิกตัวจำเลยทั้ง 4 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำกลางขอนแก่น ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเข้าร่วมรับฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้น โดยจะเป็นการอ่านคำตัดสินต่อหน้าจำเลยทั้งหมด รวมทั้ง น.ส.เบ๊นซ์ ที่ถูกตั้งข้อหารับของโจรและได้ประกันตัวไปก่อนหน้านี้
"ที่ผ่านมา ทีมทนายฝ่ายจำเลยได้ทำหน้าที่ในฐานะทนายความอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการหาพยานหลักฐานมาต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้มีการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายเท่านั้น ส่วนคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไรจะต้องรอฟัง และจะต้องดูว่าจำเลยจะมีความประสงค์อย่างไรหลังจากได้ฟังคำตัดสินของศาล ซึ่งตามหลักแล้ว จำเลยสามารถยื่นเรื่องขออุทธรณ์คำตัดสินของศาลชั้นต้นได้"
ด้านนายนพดล ศรีดาทัน ทนายร่วมของฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า ในวันนี้นอกจากศาลจะอ่านคำพิพากษาในคดีอาญาแล้ว ยังมีคำพิพากษาในคดีแพ่งด้วย ซึ่งเป็นคดีที่ครอบครัวของผู้ตาย ฟ้องเรียกร้องค่าขาดการอุปการะเลี้ยงดู เป็นเงิน จำนวน 10 ล้านบาท
"พ่อแม่และญาติของ น.ส.แอ๋ม ที่ถูกฆาตกรรม จะเดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาล หลังจากที่ต่างเฝ้ารอวันทวงคืนความยุติธรรมให้กับ น.ส.แอ๋ม ซึ่งก็หวังว่าศาลจะพิจารณาตัดสินลงโทษกลุ่มจำเลยอย่างถึงที่สุด ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอฟัง เบื้องต้น หากคำตัดสินออกมาว่า ให้จำคุกจำเลยเป็นอัตราโทษที่น้อยกว่า จำคุกตลอดชีวิต ทางโจทก์ก็จะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้น เพื่อให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาตามขั้นตอนของการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป รวมทั้งในคดีแพ่งด้วย ซึ่งจะต้องรอฟังว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร "
สำหรับคดีนี้เริ่มขึ้น จากชิ้นส่วนหญิงสาวที่ถูกหั่นแยกออกเป็น 2 ท่อน ยัดถุงดำ ใส่ถังน้ำ และพยายามฝังดินเพื่ออำพราง ที่ถูกพบที่บ้านโนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ตำรวจต้องเริ่มต้นไขคดีทันที
รอยสักภาษาอังกฤษที่หน้าอกผู้ตาย เป็นเบาะแสเบื้องต้นสำคัญ ที่นำไปสู่การสอบสวนโดย น้ำหนักของการสังหารถูกพุ่งเป้าไปที่ เรื่องชู้สาว หึงหวง หรือกระทั่งการฆ่าชิงทรัพย์
แต่ในที่สุดการสืบสวนก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อตำรวจมีหลักฐาน ทั้งจากการสืบสวน สอบสวน รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้รู้กลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยมีหลักฐานชี้ชัดว่า คนร้ายวางแผนอุ้มฆ่า ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นความแค้นส่วนตัว ที่มีแนวโน้มว่ามียาเสพติดเข้าไปเกี่ยวข้อง กระทั่งมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุคือ วศิน นามพรหม หรือนิว อายุ 22 ปี, จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ อายุ 21 ปี , ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว อายุ 22 ปี , กวิตา ราชดา หรือเอิร์น อายุ 22 ปี และ อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ อายุ 28 ปี
กระทั่งตามจับวศิน ได้ที่เกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งในกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และจับ เบนซ์ ได้ที่บ้านพักใน จ.อุบลราชธานี
ซึ่ง วศิน ซัดทอดว่าผู้ที่ลงมือสังหารโหดครั้งนี้คือ "เปรี้ยว" เพียงคนเดียวเท่านั้น และได้หนีไปกบดานฝั่งประเทศเพื่อนบ้านผ่านทาง ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อม เอิร์น และ แจ้
แต่ในที่สุดเมื่อตำรวจประสานตำรวจเมียนมา และตามจับ เปรี้ยว เอิร์น แจ้ โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
เปรี้ยว สารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่า แอ๋ม แต่ในการหั่นศพ มี วศิน ร่วมลงมือ โดยใช้เลื่อยที่ซื้อมาหั่นศพช่วงกลางลำตัว พอถึงช่วงกระดูกสันหลังก็ใช้ปังตอสับจนขาด ขณะที่เอิร์น และแจ้ ช่วยทำความสะอาด และยกชิ้นส่วนศพขึ้นรถเอาไปฝังอำพราง
ส่วนสาเหตุที่ลงมือสังหารโหด มาจาก ปัญหาหนี้สินเก่าที่ยืมไปประมาณ 3-4 หมื่นบาท และคดียาเสพติดที่ แอ๋ม ถูกจับเมื่อปลายปี 2559 และให้การซัดทอดจนอดีตสามีของเธอถูกจับไปด้วย และยอมรับว่าไม่ตั้งใจจะฆ่าให้ตายเพียงวางแผน ต้องการอุ้มไปสั่งสอนเท่านั้น แต่เมื่อพลั้งมือ จึงพยายามอำพรางคดี