
พี่"เจ้าสัว"รับ 6 พันไร่ จ.เลย ไร้เอกสารสิทธิ์
"ศรีวราห์" สอบพี่สาว "เปรมชัย" รุกป่าภูเรือกว่า 6 พันไร่ รับไม่มีเอกสารสิทธิเป็นที่ดินเดิมจากบิดา "เจ้าสัว-เมีย" ปฏิเสธพร้อมสู้คดีงาช้าง เผยกังวลทุกเรื่อง
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ บก.ปทส.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้ร่วมสอบปากคำ นางพิไลจิตร เริงพิทยา อายุ 68 ปี, นางนิจพร จรณะจิตต์ อายุ 67 ปี และนางเอมอร เทิดประวัติ อายุ 65 ปี โดยทั้งหมดเป็นกรรมการบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และเป็นพี่สาวของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) โดยทั้งสามตกเป็นผู้ต้องหาคดีบุกรุกป่าพื้นที่ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย หลังจากเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ได้รับการร้องเรียนว่ามีผู้บุกรุกพื้นที่ป่า อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริง จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนพื้นที่รับผิดชอบให้ดําเนินคดีกับผู้กระทําความผิด จำนวน 6 คดี ได้แก่ 1.สภ.โคกงาม คดีอาญาที่ 15/61 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” บริเวณ ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย และ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 6,215 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 621,500,000 บาท 2.สภ.ภูเรือ คดีอาญาที่ 30/61 ในความผิดฐาน “นํารังวัดในที่ดินซึ่งมิใช่ของ ตนเอง และแจ้งความเท็จ” พื้นที่ป่าบริเวณ ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 6 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 6 แสนบาท 3.สภ.ภูเรือ คดีอาญาที่ 35/61 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 16-1-84 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,618,400 บาท
4.สภ.ภูเรือ คดีอาญาที่ 37/61 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาต” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 293 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 24,914,300 บาท 5.สภ.ด่านซ้าย คดีอาญาที่ 39/61 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาต” พื้นที่ป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า ภูเปลือย บริเวณบ้านน้ำพุง ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย จํานวน 117 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 8,303,400 บาท และ 6.สภ.ภูเรือ คดีอาญาที่ 88/61 ในความผิดฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทําประโยชน์ในที่ดิน โดยไม่ได้รับอนุญาต” พื้นที่ป่าบริเวณบ้านร่องจิก ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ จ.เลย จํานวน 253 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 23,202,100 บาท ทั้งหมดใช้พื้นที่ดังกล่าวปลูกต้นแมคคาเดเมีย ต้นแก้วมังกร ต้นองุ่น และต้นยูคาลิปตัส โดยบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด เป็นผู้ครอบครอง รวม 6 คดี คิดมูลค่าเสียหายประมาณ 680 ล้านบาท
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังสอบปากคำว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเอาผิดตามหลักฐานนิติบุคคลกับผู้ที่อำนาจลงนาม จำนวน 3 คน ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าจำนวน 6,000 กว่าไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าในรายชื่อกรรมการบริษัทดังกล่าวมี นายเปรมชัย กรรณสูต รวมอยู่ด้วย แต่กฎหมายสามารถดำเนินคดีได้เฉพาะกับนิติบุคคลและผู้ที่ลงนาม แต่ไม่รวมถึงนายเปรมชัย
จากการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ยอมรับว่าเป็นผู้เซ็นเอกสารลงนามจริง และครอบครองพื้นที่ 6,000 กว่าไร่จริง และพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิจริง ซึ่งที่ดินของเดิมได้มาจากบิดา คือนายชัยยุทธ กรรณสูต ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีและเพิกถอนเอกสารสิทธิไป ส่วนเรื่องเจตนาบุกรุกหรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของศาล โดยวันนี้ทั้งหมดมาตามหมายเรียก ยังไม่ได้ถูกออกหมายจับ เมื่อแจ้งข้อหาเสร็จก็ต้องปล่อยตัวไป
ด้านนายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร ผอ.ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า เรื่องการบุกรุกป่าเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้วไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด และมีการเพิกถอนอยู่ตลอดเวลา แต่การที่มีเอกสารสิทธิกลับไปกลับมาทำให้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนการออกโฉนดที่ดินเป็นเรื่องของกรมที่ดิน ทราบว่าได้ใช้ นส.3 ในการขอโฉนด โดยทางกรมป่าไม้ไม่ได้เป็นผู้รับรอง เนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าสงวน ส่วนสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ 6,000 กว่าไร่ ทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้ติดประกาศห้ามใช้อาคาร ซึ่งอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดรายงานตัวและสอบคำให้การจำเลยคดีครอบครองงาช้างแอฟริกา หมายเลขดำ อ.1143/2561 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 64 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) นางคณิตดา กรรณสูต อายุ 64 ปี ภรรยานายเปรมชัย และ น.ส.วันดี สมภูมิ อายุ 71 ปี คนใกล้ชิด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกับ เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรฯ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 19, 47 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27, 27 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
คดีนี้อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 เมษายน บรรยายพฤติการณ์จำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาที่ 49/2561 เข้าค้นบ้านเลขที 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ของนายเปรมชัย บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 พบงาช้างป่าแอฟริกา 2 คู่ (4 กิ่ง) ซึ่งเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นของที่มีผู้บังอาจลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักร และมิได้ผ่านช่องทางศุลกากร มิได้เสียภาษีศุลกากรโดยถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2558 นางคณิตดา และ น.ส.วันดี ได้ร่วมกันแจ้งต่อนักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานฯ ว่า ได้ครอบครองงาช้าง (งช.1) ทั้ง 4 กิ่ง ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ.2558 อันเป็นทรัพย์มรดกของนางคณิตดาที่ได้มาตั้งแต่ปี 2530 โดยถูกต้อง ซึ่งมี น.ส.วันดี เป็นพยานถูกต้องทุกประการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางคณิตดา ภรรยาของนายเปรมชัย ได้เดินทางมาศาลตั้งแต่เวลา 08.30 น. เพื่อเข้ารายงานตัวและสอบคำให้การ ส่วนนายเปรมชัย สามี เดินทางมาพร้อมคณะทนายความและผู้ใกล้ชิดในเวลา 09.00 น.
ต่อมาผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้งสามฟังพร้อมสอบคำให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 25 มิถุนายน โดยทั้งสามได้รับการปล่อยชั่วคราวไปโดยใช้หลักทรัพย์เดิมที่ยื่นประกันตัวในชั้นฝากขังคนละ 3 แสนบาท ซึ่งเฉพาะนายเปรมชัยเท่านั้นที่ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ขณะที่ทนายความก็ได้รับมอบอำนาจจากนายเปรมชัย ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตเดินทางไปประเทศอินเดียเพื่อติดต่อประชุมทางธุรกิจ ระหว่างวันที่ 10-11 พฤษภาคม
ทั้งนี้ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้นายเปรมชัยเดินทางออกนอกประเทศได้โดยทำสัญญาวางเงินประกันไว้ด้วยอีก 3 แสนบาท เพื่อเป็นหลักประกันหากไม่เดินทางมารายงานตัวหลังจากกลับต่างประเทศก็จะถือว่าผิดสัญญาประกันก็จะยึดเงินดังกล่าว โดยศาลกำหนดนัดให้นายเปรมชัยรายงานตัวต่อศาลในวันพุธที่ 16 พฤษภาคม
ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนสอบคำให้การ นายเปรมชัยให้สัมภาษณ์ถึงการขึ้นศาลวันนี้ว่า ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และก็ได้ทำเรื่องขออนุญาตศาลเดินทางไปประเทศอินเดียด้วย และยอมรับว่ายังกังวลในทุกๆ เรื่อง
สำหรับ นายเปรมชัย นอกจากคดีครอบครองาช้างแอฟริกาที่ถูกฟ้องเป็นคดีต่อศาลอาญาแล้ว ยังถูกอัยการคดีอาญา 8 ยื่นฟ้องฐานครอบครองอาวุธปืนไรเฟิลโดยไม่ได้รับอนุญาต ในคดีหมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่ตรวจพบอาวุธปืนภายในบ้านพักด้วย ซึ่งศาลกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานในวันเดียวกันวันที่ 25 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ตกเป็นผู้ต้องหาพร้อมพวกรวม 4 คนในคดีล่าสัตว์ป่าที่อัยการส่งฟ้อง 6 ข้อที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ รวมทั้งคดีติดสินบนเจ้าพนักงานด้วย
ฉบับ นสพ.คมชัดลึก