ข่าว

"หมอบอนด์"ปัดรีวิวเมจิกสกินยันช่วยเมียขายของ

"หมอบอนด์"ปัดรีวิวเมจิกสกินยันช่วยเมียขายของ

02 พ.ค. 2561

"บิ๊กตู่" สั่ง "อย.-สมอ.-สคบ." มาตรการเข้ม "อาหารเสริม-เครื่องสำอาง" "หมอบอนด์-ภรรยา"ปัดรีวิวเมจิกสกิน ด้านพิธีกรดัง "เคนโด้" แจ้งเอาผิดแม่ทีม"ลีน"ตัดต่อคลิป

     คืบหน้าการดำเนินคดีกับเครือข่ายเมจิกสกินรวมทั้งกลุ่มดาราคนดังรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่มีนายแพทย์คนดังร่วมรีวิวผลิตภัณฑ์เมจิกสกินที่ผลิตไม่ได้มาตรฐานมีการปลอมอย.เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยทางแพทยสภาเตรียมสอบสวนแพทย์คนดังกล่าวในเรื่องจริยธรรมจรรยาบรรณนั้น

    \"หมอบอนด์\"ปัดรีวิวเมจิกสกินยันช่วยเมียขายของ  

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงปัญหาการหลอกลวงขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางไร้คุณภาพไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ว่าวันนี้ได้สั่งการและย้ำเตือนไปแล้ว โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ซึ่งเดิมอาจจะทำงานตามเฉพาะข้อเรียกร้องหรือการร้องเรียนแจ้งกลับให้ตรวจสอบเป็นหมื่นๆกิจกรรมก็ทำงานลำบาก วันนี้ได้ให้ไปดูว่าจะต้องปรับบุคลากรต่างๆ ให้มากขึ้น ตนต้องการให้มีการตรวจสอบอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสุ่มตรวจหรือการตรวจเมื่อมีการจดขึ้นทะเบียนต่างๆ

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบมีการจดทะเบียน จัดตั้ง มีการขายอะไรต่างๆ เดือนหนึ่งเป็นหมื่นๆ ราย ปีหนึ่งๆ เป็นล้านๆ ราย ดังนั้นต้องมาพิจารณาว่าเราจะเข้าถึงปัญหาเหล่านี้ให้ทั่วถึงได้อย่างไร 

     “สิ่งที่สำคัญที่สุดประชาชนผู้บริโภคจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบด้วยช่วยกันดูเพราะทุกคนเป็นคนที่เข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะซื้อของซื้อยาจะต้องตรวจสอบ สอบถามมาก็ได้ว่าได้อย.ใช่หรือไม่ เพราะการทุจริตการคดโกงผู้ที่หลอกลวงคนทั้งรู้และไม่รู้ก็ยังคงมีอยู่ในระบบก็อย่าให้มันเป็นประเด็นความขัดแย้งอีกเลย เราก็ต้องเอาปัญหามาแก้ไขให้ทั้งหมด” นายกฯ กล่าว

     วันเดียวกันเวลา 10.30 น. นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษ์ หรือ “หมอบอนด์” อายุ 31 ปี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และน.ส.ปวีณา นามสงคราม หรือ "น้ำผึ้ง เทก มี เอาท์” สามีภรรยาเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เพื่อให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนหลังถูกออกหมายเรียกกรณีรีวิวผลิตภัณฑ์น้ำชงคลีโอ สินค้าของบริษัทเมจิกสกิน จำกัด อาหารเสริมไม่ได้คุณภาพและใช้อย.ปลอม

\"หมอบอนด์\"ปัดรีวิวเมจิกสกินยันช่วยเมียขายของ

     นพ.ปิยะพงษ์ หรือหมอบอนด์ กล่าวว่า คลิปวิดีโอที่เผยแพร่ออกไปยืนยันไม่ใช่เป็นการรีวิวสินค้า โดยวันนั้นตนไปงานรับปริญญาน้องสาวของแฟน และนายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือหญิงย้วย 1 ใน 8 ผู้ต้องหาได้ชวนมาไลฟ์สด ตอนนั้นไม่ได้คิดจะรีวิวไม่ได้คิดอะไรเขาให้ช่วยไลฟ์สดก็ไลฟ์ไป เพียงแค่ต้องการขายของช่วยภรรยาเท่านั้น ยืนยันไม่มีเจตนา ไม่มีค่าจ้าง ไม่มีสัญญา สามารถตรวจสอบได้ ส่วนการนำเสื้อกราวของแพทย์มาใส่ไลฟ์สดเพราะปกติมีเสื้อไว้ในรถอยู่แล้ว และไม่ได้คิดอะไร ไม่รู้ว่าจะผิดจรรยาบรรณด้วย

     ด้านน.ส.ปวีณา หรือน้ำผึ้ง กล่าวยอมรับว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเครือเมจิกสกิน โดยเป็นตัวแทนไม่ถึงเดือนก็มีข่าวว่าสินค้ามีปัญหาซึ่งตนก็เสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์มาขายกว่า 3 แสนบาท ยืนยันไม่ได้ใช้ตำแหน่งสามีมาเป็นเครื่องมือในการเพิ่มยอดขาย พวกเราถือว่าเป็นผู้เสียหายเช่นกัน ก่อนเป็นตัวแทนและรีวิวมีการเช็กอย.ก่อน ลองรับประทานก่อน ในช่วงหนึ่งสัปดาห์น้ำหนักลดลง 1 กิโลกรัม ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ หลังเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อเจ้าของได้เลย ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เสียชื่อเสียง ส่วนจะฟ้องร้องกลับบริษัทเมจิกสกินหรือไม่นั้น ขอพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

     พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ในกรณีของหมอบอนด์และภรรยาถือว่ามีความพิเศษเช่นเดียวกับกลุ่มดารานักแสดง เพราะเป็นบุคคลที่ทำงานอยู่ในแวดวงด้านสุขภาพมีหน้าที่โดยตรงในการช่วยเหลือแนะนำและให้ข้อมูลต่างๆ อย่างไรก็ตามคนดังแต่ละคนจะตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาใดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ผลการตรวจพิสูจน์ทางเคมีของผลิตภัณฑ์นั้นๆ หากผลปรากฏว่าเป็นสารชนิดอื่นซึ่งไม่ตรงกับที่นักแสดงรีวิวหรือเป็นสารที่มีอันตรายจะมีการตั้งข้อหาที่แตกต่างกันออกไปตามพฤติการณ์ที่แต่ละคนให้ถ้อยคำไว้ 

     สำหรับในส่วนของข้อกฎหมายยังคงใช้มาตรฐานเดียวกันกับกลุ่มดารานักแสดง โดยจะอ้างอิงตามกฎหมายหลัก 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาสินค้าประเภทอาหารและยา ได้แก่ 1.พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558, พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

\"หมอบอนด์\"ปัดรีวิวเมจิกสกินยันช่วยเมียขายของ

     พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า ในวันที่ 12 พฤษภาคม พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก 7 บุคคลสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือของบริษัทเมจิกสกิน เข้าให้ถ้อยคำกับตำรวจในฐานะพยาน ประกอบด้วย 1.ว่าที่ร้อยตรีปวีร์ ปานดำรงสถิต 2.น.ส.ทิพวรรณ ตันไชย 3.น.ส.สุนีย์ กรมสูงเนิน 4.นายอภิวัส พงศ์พัฒนะกูล 5.นายณัฐนันท์ อ่วมแก้ว 6.นายกฤษณผล พินจอหอ 7.น.ส.สิริญาณี ฤทธิ์ดีสิริธร โดยทั้ง 7 รายนี้ไม่ใช่นักแสดง ดารา เป็นคนละส่วนกับกลุ่มดารา 59 คนที่จะต้องออกหมายเรียก ยืนยันมีความจำเป็นที่จะต้องออกหมายเรียกให้ครบทั้งหมดเพื่อความสมบูรณ์ของสำนวน

     “ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือบริษัทเมจิกสกิน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้ครบทั้งหมดแล้ว บางรายได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน บางรายได้รับการประกันตัวในชั้นศาล อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเข้มข้นตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดก็ตาม ถ้าหากพบว่าไม่มีอย. ไม่มีคุณภาพ เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการทุกผลิตภัณฑ์ทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ของดาราหรือไม่ก็ตาม" พล.ต.อ.วิระชัย ระบุ

     วันเดียวกันเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเกรียงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ “เคนโด้” ผู้ประกาศข่าว พร้อมด้วย นายนิติธร แก้วโต หรือทนายเจมส์ ได้นำหลักฐานการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและคลิปเสียงที่ถูกตัดต่อเข้าพบพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. พ.ต.อ.ดร.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ปอท. ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแม่ทีมอาหารเสริมลดน้ำหนัก LYN (ลีน) หลังพบว่ามีการตัดต่อคลิปเสียงในข้อหานำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์

     นายเกรียงไกรมาศ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากจากกรณีอาหารเสริมลดน้ำหนักยี่ห้อลีน ที่ตรวจพบสารไซบูทรามีนและพบว่ามีผู้กินแล้วเสียชีวิตซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ประกาศดังได้นำเสนอกรณีนี้โดยการโทรศัพท์ไปเพื่อขอสัมภาษณ์แหล่งข่าวที่ชื่อเอ๋ เป็นแม่ทีมและมีความสนิทกับเจ้าของสินค้าโดยมีการสนทนากัน 28 นาที แต่สุดท้ายน.ส.มณิตา ไม่ยินยอมให้ออกอากาศจึงไม่มีการนำเสนอประเด็นดังกล่าวออกอากาศแต่อย่างใด หลังจากนั้นไม่กี่วัน น.ส.มณิตา กลับนำเสียงสนทนาที่ได้บันทึกไว้นำไปตัดต่อความยาว 3 นาที เพื่อสนับสนุนการขายสินค้าว่ามีการบิดเบือน โดยอ้างว่านักข่าวเป็นคนกลางในการโจมตีธุรกิจร่วมกับเพจชื่อดัง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของตนเป็นอย่างมาก

\"หมอบอนด์\"ปัดรีวิวเมจิกสกินยันช่วยเมียขายของ

     นายเกรียงไกรมาศ กล่าวอีกว่า เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนส่งข้อมูลมาให้ตนเกี่ยวกับอาหารเสริมยี่ห้อลีนเป็นเลขอย.ไม่ตรงกับผลิตภัณฑ์ และเลขฮาลาลเป็นเลขของผลิตภัณ์น้ำปลาชนิดหนึ่ง จึงพยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เจ้าของแบรนด์แต่ไม่สะดวกทำให้ไปสัมภาษณ์แม่ทีมคนหนึ่งใน จ.ขอนแก่น มีการพูดคุยกันประมาณ 28 นาที แต่บ่ายเบี่ยงไม่ให้ข้อมูล แต่กลับพูดเรื่องอื่นๆ และก่อนวางสายโทรศัพท์ได้ขออนุญาตเพื่อขอเขียนข่าว แต่แม่ทีม จ.ขอนแก่น ไม่อนุญาต จึงสรุปไม่ทำข่าวดังกล่าว จากนั้น 2-3 วันต่อมาทราบว่ามีคลิปเสียงตนถูกตัดต่อเหลือ 3 นาทีถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ “Manita Rattanakasemchai (Marnie)” และถูกโยงเป็นตัวกลางแก้ตัวให้เพจดังเพจหนึ่งที่ได้โจมตีเกี่ยวกับอาหารเสริมชนิดต่างๆ ซึ่งจริงแล้วตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพจดังกล่าวเพียงแค่นำเสนอข้อมูลตามหน้าที่ของสื่อมวลชนเท่านั้นเพื่อเตือนผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการแสดงความคิดเห็นด่าทอว่าไม่มีจรรยาบรรณและเป็นคนมาเคลียร์ปัญหาให้เพจดังกล่าว

     ด้านนายนิติธร หรือทนายเจมส์ กล่าวว่า คลิป 3 นาทีที่ถูกตัดต่อนั้น พบว่าเป็นคำพูดลักษณะการสนับสนุนสินค้าขายสินค้าอาหารเสริมยี่ห้อลีน ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายได้ ทั้งนี้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและยุติจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามพิจารณาแล้วว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ

     เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนนำส่งผู้บังคับบัญชาพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ฉบับ นสพ.คมชัดลึก