
เนรมิต77ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่
เนรมิต77ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ ตอบโจทย์"ภาคเกษตรไทย"สู่ความยั่งยืน
การผลักดันให้เกษตรกรรุ่นใหม่ๆ ได้ก้าวขึ้นมาสานต่ออาชีพเกษตรจากคนรุ่นเก่า ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้พยายามปั้นเกษตรกรรุ่นใหม่ผ่าน “ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่” เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่คนกลุ่มนี้ ได้มาศึกษาหาความรู้ ฝึกปฏิบัติจริงในแปลงเรียนรู้ ตอบโจทย์ความต้องการในระดับพื้นที่ได้อย่างแท้จริง เป็นแหล่งเชื่อมโยง Young Smart Farmer ต้นแบบ เสมือนแหล่งถ่ายทอดความรู้เฉพาะด้านทุกสาขาการเกษตร หรือที่เรียกว่า Academy Young Smart Farmer ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ นวัตกรรม หลักการธุรกิจเกษตร การผลิต การแปรรูป และการตลาด ตลอดห่วงโซ่อุปทาน
“ท่องโลกเกษตร” อาทิตย์นี้มาดูกระบวนการทำงานของศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะแล้วจำนวน 27 ศูนย์ และกำลังจะตั้งศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่อีก 50 ศูนย์ เพื่อให้ครบ 77 จังหวัด ตามที่อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร "สมชาย ชาญณรงค์กุล" ระบุ เพื่อต่อยอดให้เกษตรกรรุ่นใหม่เป็นผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่ที่จะมีเครือข่ายในการทำธุรกิจเกษตรและเป็นผู้นำด้านเกษตร นอกจากนี้ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ยังจะเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเกษตรของเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้เครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ในพื้นที่อีกด้วย
กระบวนการทำงานของศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่นี้จะมี Young Smart Farmer ต้นแบบ เป็นเจ้าของศูนย์ และต้องได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมการเกษตร จากคุณสมบัติต่างๆ เช่น มีจิตอาสา ได้รับการยอมรับจากเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ มีความรู้เฉพาะด้าน สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ เป็นต้น และที่สำคัญจะต้องมีความเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร สามารถผลิต แปรรูป และมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิต ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนเอง
ในส่วนของสถานที่ตั้งศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรฯ ประกอบไปด้วย แปลงเรียนรู้ สถานที่แสดงสินค้าของเกษตรกรรุ่นใหม่ในพื้นที่ การคมนาคมสะดวกเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงมีสถานที่สำหรับการเจรจาธุรกิจสำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่ เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง เน้นกิจกรรมการเกษตรสมัยใหม่ ทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การแปรรูปผลผลิตเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารและทำการตลาด การเกษตรผสมผสาน เน้นการปลูกพืชที่หลากหลาย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของดินแล้วจึงวางแผนการผลิต การออกแบบฟาร์ม และการวางระบบน้ำ สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผลผลิต มีมาตรฐานรับรอง ทำการเกษตรแบบปลอดภัย นำเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ มีการทำการตลาดหลากหลาย เช่น การขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่เหล่านี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาภาคการเกษตรของไทยให้เกษตรกรก้าวหน้าขึ้น เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรที่มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้ ก้าวทันโลกและเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างภาคภูมิ
ธีรวัฒน์ เสื้อมา เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ Young Smart Farmer จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนเองและเพื่อนๆ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หนีจากการทำงานในเมืองกลับมายังบ้านเกิด และมีแนวคิดที่จะทำสิ่งดีๆ ให้แก่บ้านเกิด จึงได้รวมกลุ่มกันทำเกษตรอินทรีย์ ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ตามความถนัดของแต่ละคน เช่น ข้าว ลำไย ผลไม้เมืองหนาว ผักตามฤดูกาล พืชสมุนไพร เป็นต้น แล้วนำมารวมกลุ่มกัน มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน และหาช่องทางการตลาดด้วยกัน โดยการจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะการเสนอขายผ่านระบบออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก และผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีความสะดวกและสินค้าถึงมือผู้บริโภคโดยตรง การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกในกลุ่มได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันที่ศูนย์บ่มเพาะของตนเป็นการรวมตัวของ Young Smart Farmer ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 150 คน ซึ่งแต่ละคนมีกิจกรรมและความถนัดที่แตกต่างกัน การรวมตัวกันจึงเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สินค้า องค์ความรู้ และนวัตกรรมทางการเกษตร ให้เกิดการพัฒนา มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพเข้าใจกลไกการผลิตที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ตลาดของสินค้าเกษตร เกิดพลังในการขับเคลื่อนงานภาคการเกษตรในรูปแบบการรวมกลุ่ม ก่อให้เกิดความมั่นคงทางอาชีพและมีความเป็นอยู่ที่ดี นอกจากนี้ในศูนย์บ่มเพาะยังมีการศึกษาวิจัยเรื่องข้าว การทำกระเทียมอินทรีย์เพื่อพัฒนาไปสู่กระเทียมดำ การผลิตหอมแดงนอกฤดู เป็นต้น ซึ่งเป็นการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเน้นงานวิจัยสินค้าเกษตรของพื้นที่เป็นหลัก เป็นการพัฒนาการผลิตให้มีศักยภาพสูงสุดเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น
“ต้องยอมรับว่า เกษตรกรรุ่นใหม่จะมีศักยภาพด้านการต่อยอดการผลิตและการตลาดรูปแบบใหม่ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตร เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ช่วยต่อยอดพื้นฐานเกษตรกรรมให้มีมูลค่าและคุณค่าสูงสุด เพราะท้ายที่สุดแล้วจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่เกษตรกร ซึ่งปัจจุบันได้ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการที่จะสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาในเรื่องการผลิต การตลาดอีกด้วย” ธีรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่ นับเป็นอีกก้าวของภาคเกษตรไทยในการเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ยุวเกษตรกรเพื่อเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต