ทายาทคนสุดท้ายของเหมา เจ๋อตุง | คมชัดลึก

 บุรุษหนึ่งกลับซุ่มดูอยู่เงียบๆ ซ่อนความปลาบปลื้มอยู่ในใจเพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของใคร อีกทั้งไม่อยากถูกเขม่นจากบรรดา "คุณชายน้อย" และไฮไซรุ่นเยาว์ที่กำลังแข่งกันทอรัศมีอันเจิดจ้าคู่ขนานไปกับบารมีของพ่อที่เป็นใหญ่ในแผ่นดินในยุคนี้

 ทั้งๆ ที่ เหมา ซินหวี่ วัย 39 ปี มีสิทธิจะทวงถามความโดดเด่นนั้นในฐานะที่เป็นหลานปู่และทายาทชายคนสุดท้ายของอดีตประธานเหมา เจ๋อตุง แต่เจ้าตัวกลับสมัครใจเก็บตัวเงียบ ขณะที่ผู้นำยุคใหม่เองก็ไม่สนใจที่จะผลักดันทายาทคนสุดท้ายของเหมา เจ๋อตุง ให้ก้าวขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าให้รกหูรกตาไปเปล่าๆ

 แม้กระทั่งช่วงที่กองทัพปลดแอกประชาชนได้เลื่อนยศพันตรีให้แก่ซินหวี่เมื่อเร็วๆ นี้ แทบไม่มีสื่อฉบับใดรายงานข่าวนี้ ยกเว้นเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์จางเจียง เดลี อันเป็นสื่อรัฐที่รายงานเป็นข่าวเล็กๆ แต่กลับมีคนคลิกเข้าไปดูข่าวนี้อย่างเนืองแน่น

 เหมา ซินหวี่ เคยเรียนด้านประวัติศาสตร์ที่โรงเรียนของพรรค ก่อนจะมุ่งมาศึกษาผลงานและแนวคิดของเหมา เจ๋อตุง ผู้เป็นปู่ จนเขียนเป็นบทความและหนังสือหลายเล่มก่อนจะเปิดเว็บไซต์คอยปกป้องแนวคิดของเหมาผู้เป็นปู่ไว้ โดยมีแฟนขาประจำเข้าไปเปิดดูเสมอๆ

 เหมา ซินหวี่ เป็น 1 ใน 4 ของทายาทรุ่นหลานของบิดาการปฏิวัติคอมมิวนิสต์จีน แต่เป็นทายาทชายเพียงคนเดียวและคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ โดยเป็นบุตรชายของ เหมา อันชิง ลูกชายคนรองของเหมา เจ๋อตุง ซึ่งต้องเก็บตัวเงียบเนื่องจากป่วยเป็นโรคประสาท ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยวัย 84 ปี ปล่อยให้นายพล เส้า หัว ภรรยาเป็นคนเลี้ยงดูซินหวี่จนเติบใหญ่ นายพลเส้าหัวเพิ่งเสียชีวิตเมื่อกลางปีที่แล้วขณะที่มีอายุ 69 ปี

 แม้ว่า เหมา เจ๋อตุง จะเป็นคนตั้งชื่อให้หลานชายว่า "ซินหวี่" อันหมายถึงจักรวาลใหม่ แต่เหมา ซินหวี่ ยอมรับว่าจำปู่ไม่ได้เลย พร้อมกับสารภาพว่าได้รับแรงกดดันมากมายจากการเกิดมาเป็นทายาทของครอบครัวอันดับหนึ่งของประเทศ ต้องเก็บตัวเงียบและต้องคอยทำตัวดีตลอดเวลาเนื่องจากถูกประชาชนเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งๆ ที่ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ

 อภิสิทธิ์เดียวที่ เหมา ซินหวี่ ได้รับก็คือการมีทายาท 2 คนเป็นหญิง 1 ชาย 1 ขณะที่ประชาชนทั่วไปถูกบังคับให้มีลูกคนเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือไม่กับการได้ชื่อว่าเป็นทายาท เหมา เจ๋อตุง

บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์