
เตือนถูกหลอกขายไอโฟนสูญ 1.5 หมื่น
สาวโพสต์เตือนถูกแม่ค้าออนไลน์หลอกขายไอโฟน เสียเงินเกือบ 15,000 บาท แถมใช้ข้อมูลในทะเบียนบ้านที่ให้ส่งไปยืนยันเปิดเฟซบุ๊กชื่อพ่อขายมือถือ
18 มี.ค. 61 จากกรณีที่ นาวสาวพรลภัส ธนสิทธิ์ อายุ 23 ปี โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเตือนภัยในโซเชียลมีเดีย ถูกคนร้ายปลอมแปลงเฟซบุ๊กเป็นร้านขายโทรศัพท์มือถือ และหลอกขายโทรศัพท์ iPhone 8 Plus 32GB สีขาว จำนวน 2 เครื่อง เสียหายกว่า 14,400 บาท
จากการสอบถาม นางสาวพรลภัส เปิดเผยว่า รุ่นพี่ที่รู้จักได้ติดต่อเป็นตัวแทนในการซื้อขายโทรศัพท์มือถือ โดยไม่สต็อกสินค้า และจะได้เปอร์เซ็นต์ต่อเครื่อง 800 - 1,000 บาท จากร้านค้าในเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “น้ำฝน โฟร์ โมบาย” โดยเป็นเฟซบุ๊กที่เพิ่งเปิดบัญชีได้ไม่นาน และมีการโพสต์รูปภาพลักษณะเป็นร้านขายโทรศัพท์มือถือ ขายสินค้าและโฆษณาสินค้าอยู่บ่อยครั้ง โดยขึ้นรูปประจำตัวเป็นรูปผู้หญิง อายุประมาณ 35 ปี ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค. ได้ติดต่อซื้อโทรศัพท์ iPhone 8 Plus สีขาว 2 เครื่อง ผ่านรุ่นพี่ที่เป็นตัวแทนของร้านค้า ในราคาเครื่องละ 33,000 บาท เมื่อถึงขั้นตอนการโอนเงิน จึงติดต่อกับทางร้านโดยตรงผ่านข้อความทางเฟซบุ๊ก ซึ่งทางร้านให้ตนชำระเงินดาวน์โทรศัพท์ 2 เครื่อง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,400 บาท และสามารถผ่อนต่อได้เดือนละ 4,000 บาท เป็นระยะเวลา 13 เดือน โดยให้ตนโอนเงินครั้งที่ 1 เป็นในส่วนของเงินดาวน์รวมโทรศัพท์สองเครื่อง จำนวน 9,400 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 3,000 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 2,000 บาท ซึ่งมีการติดต่อพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์กับตนตลอดการซื้อขาย และได้แนะนำสินค้าเป็นอย่างดี
ตนจึงหลงชื่อและโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารกรุงศรี ชื่อบัญชี นายณัฐชัย ไม่ทราบนามสกุล ในช่วงกลางคืน เวลาประมาณ 02.00 น. ทางไอโมบายแบงก์กิ้ง ซึ่งในตอนแรกไม่สามารถโอนเงินได้เนื่องจากระบบมีปัญหา ตนจึงขอโอนในช่วงเช้า แต่ร้านค้าดังกล่าวก็พยายามชวนคุยเพื่อต่อเวลาให้ตนยังไม่นอน กระทั่งระบบไอโมบายแบงก์กิ้งสามารถใช้งานได้ ตนจึงโอนเงินสำเร็จ และทางร้านค้าก็ให้ตนส่งเอกสารเป็นสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไปให้ทางข้อความเฟซบุ๊ก ซึ่งทางร้านค้าตกลงส่งสินค้ามาให้ในวันต่อมา (4 มี.ค.) แต่ตนก็ยังไม่ได้รับเลขพัสดุอีเอ็มเอส เมื่อสอบถามไปยังร้านค้าดังกล่าวทราบว่า โทรศัพท์ที่ส่งมาให้ตนนั้นมีปัญหาและทางร้านกำลังไปรับพัสดุคืนที่ไปรษณีย์ พร้อมออกอุบายว่า จะเปลี่ยนเครื่องให้ตน แต่ขอให้โอนเงินเพิ่มอีกจำนวน 2,000 บาท และตนก็ได้โอนไป พร้อมแจ้งว่าจะส่งสินค้าและเลขพัสดุให้ทันที ต่อมาเวลา 12.00 น. ตนยังไม่ได้รับเลขพัสดุอีเอ็มเอส เมื่อติดต่อไปยังร้านค้า ก็ได้ส่งเลขอีเอ็มเอสพัสดุปลอมมาให้ ซึ่งตนเริ่มรู้สึกแปลกใจ จึงคุยกับทางร้านค้าว่าไม่ต้องส่งของให้ตนแล้ว ตนไปรับเองที่หน้าร้าน ซึ่งแจ้งว่าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง จังหวัดระยอง ตนจึงเดินทางนั่งรถตู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ไปยังห้างสรรพสินค้าดังกล่าว และเมื่อไปที่ชั้น 2 ของห้างสรรสินค้า ซึ่งเป็นโซนร้านขายโทรศัพท์มือถือ พบว่า ไม่มีร้านค้าดังกล่าวอยู่ในห้าง
ซึ่งขณะนั้นตนยังไม่ขาดการติดต่อกับร้านค้าดังกล่าว และได้แจ้งว่าตนหาร้านไม่พบ ทางร้านค้าจึงบอกกับตนว่า หากตนเดินมาหาที่หน้าร้าน ทางร้านจะไม่คืนเงินให้ นอกจากกรณีเครื่องมีปัญหาเท่านั้น และหากตนมีปัญหาจะให้แฟนที่เป็นตำรวจมาเคลียร์และพาไปโรงพัก เมื่อวางสายไปก็ไม่สามารถติดต่อร้านค้าดังกล่าวได้อีกเลย โดยบล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของตน ซึ่งเมื่อนำเฟซบุ๊กของผู้อื่นเข้าไปดู ก็พบว่าร้านค้าดังกล่าวยังมีการโพสต์ขายสินค้าอยู่ปกติ ตนจึงรู้ว่าโดนมิจฉาชีพหลอก และเมื่อเดินสอบถามร้านขายโทรศัพท์มือถือบริเวณนั้นทราบว่า มีผู้ถูกหลอกลักษณะเดียวกับตนมาแล้วหลายราย โดยคนร้ายได้ออกอุบายว่ามีหน้าร้านอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง หากมีปัญหาให้มาที่หน้าร้านได้ ทำให้มีผู้ถูกตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อมิจฉาชีพจำนวนมาก ตนจึงแจ้งเรื่องไว้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง และเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.เมืองจังหวัดระยอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ต่อมาเพื่อนได้ส่งข้อมูลมาว่า มีเฟซบุ๊กเพิ่งเปิดขึ้นใหม่ โดยใช้ชื่อและนามสกุลของพ่อตน นายธนูสิทธ อภิชาติ เปิดเป็นร้านค้าออนไลน์ขายโทรศัพท์มือถือลักษณะเดียวกันกับที่ตนถูกหลอกโดยใช้ชื่อ “ธนูสิทธ อภิชาติ สยาม โฟร์โมบาย” แต่ได้นำรูปผู้หญิงอายุประมาณ 35 ปี เป็นรูปประจำตัว และแอดเพื่อนของตนมา จึงตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กกรณีดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อเตือนภัยผู้ใช้เฟซบุ๊กคนอื่นๆ ให้ระวังมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งก็มีผู้เสียหายที่เคยถูกหลอกลักษณะนี้เข้ามาคุยกับตนหลายราย คาดว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพรายเดียวกัน