ข่าว

คุก 10 ปี "เดอะบิ๊ก"อดีต ปธ.สโมสรฟุตบอลเพื่อน ตร.

คุก 10 ปี "เดอะบิ๊ก"อดีต ปธ.สโมสรฟุตบอลเพื่อน ตร.

16 มี.ค. 2561

"สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา" อดีต ปธ.สโมสรฟุตบอลเพื่อน ตร.-อดีต กก.บิลเลี่ยน นอนเรือนจำ ศาลอาญาตัดสิน ผิดปลอมตั๋วแลกเงิน ธ.HSBC การันตีกู้เงิน สกสค.กว่า 2 พันล้าน 

          16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีปลอมตั๋วเงิน หมายเลขดำอ.134/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสัมฤทธิ์  บัณฑิตกฤษดา อายุ 43  ปี หรือ เดอะบิ๊ก อดีตประธานสโมสรทีมฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ในศึกไทยลีก และนายสิทธินันท์ หลอมทอง อายุ 36 ปี กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัดร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 , 266 (4) ,268
          ตามฟ้องของอัยการโจทก์เมื่อวันที่ 11 เม.ย.59 ระบุพฤติการณ์ความผิดของจำเลยสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.56 – 21 ก.ค.57 จำเลยกับ บริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด โดยนายสิทธินันท์ หลอมทอง กรรมการผู้มีอำนาจ และในฐานะส่วนตัว กับพวกของจำเลย ได้ร่วมกันปลอมเอกสารตั๋วแลกเงิน หรือดราฟท์ ( Draft ตราสารที่ธนาคารจะเป็นผู้ออกให้ใช้สำหรับการเรียกเก็บหรือชำระเงินค่าสินค้าต่างๆที่จะระบุว่าให้บุคคลใดจ่ายเงินให้แก่บุคคลใด) ทั้งฉบับของธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แบงก์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยพวกจำเลยร่วมกันนำกระดาษที่มีลวดลาย  พิมพ์ด้วยอักษรภาษาอังกฤษสีเทาจางๆ ในชื่อของธนาคารดังกล่าวเรียงต่อกันจนเต็มพื้นที่หน้ากระดาษ และตัดให้มีขนาดประมาณ 8 x 20 ซม.ใกล้เคียงกับขนาดแบบฟอร์มตั๋วแลกเงิน ฉบับตัวจริง และพิมพ์อักษรตัวย่อภาษาอังกฤษ ของ HSBC  ตามด้วยเครื่องหมายของธนาคารบนมุมด้านซ้ายมือ รวมทั้งการพิมพ์หมายเลข , วันที่ แสดงไว้สำหรับการสั่งจ่ายเงินก่อนที่จะนำตั๋วแลกเงินปลอม มูลค่า 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 3,200 ล้านบาทไปแสดงต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กระทรวงศึกษาธิการ ผู้เสียหาย จนหลงเชื่อว่า เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตั๋วสัญญาใช้เงินของ บริษัท บิลเลี่ยนฯ  จำนวน 2,100 ล้านบาท ที่จำเลยกับพวกร่วมกันนำมาหลอกขายให้ สกสค. ทำให้สกสค.เชื่อว่า พวกจำเลยสามารถหาหลักทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือเทียบเท่ากับธนาคารเป็นอาวัล (การรับประกัน การใช้เงินตามตั๋วเงิน) กระทั่งคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ชพค.ยึดถือไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน 
           การที่จำเลยกับพวกนำตั๋วสัญญาใช้เงินปลอมมาหลอกขายให้กับ สกสค.ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า  เป็นของปลอม จึงเป็นความผิด โจทก์จึงขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 , 266 (4) ,268
          จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีโดยไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่ชั้นจับกุม -ฝากขัง และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพเรื่อยมา 
            ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานที่โจทก์ – จำเลย นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลย ทั้งสอง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266 (4),268วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 ที่จำเลยทั้งสองเป็นผู้ร่วมกันปลอมและใช้ตั๋วเงินปลอมนั้นเอง 
           จึงพิพากษาลงโทษฐานร่วมกันใช้ตั๋วเงินปลอมเพียงกระทงเดียว ตามมาตรา 268 วรรคสอง ให้จำคุกจำเลยทั้งสองไว้คนละ 10 ปี ริบของกลาง
          ภายหลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ปรากฏว่านายสัมฤทธิ์ หรือ เดอะบิ๊ก อดีตประธานสโมสรฟุตบอลทีมเพื่อน ตำรวจและนายสิทธินันท์ ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการกล่าวหาความผิดดังกล่าว สืบเนื่องจากได้มีการกู้เงินกับกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) จำนวน 3 ครั้ง มูลค่ารวมกว่า 2,000  ล้านบาท แต่ต่อมาทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ตรวจสอบพบว่า ไม่ได้มีการทำเรื่องกู้ที่ถูกต้องตามขั้นตอน เนื่องจากการกู้ยืมดังกล่าวไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจาก สกสค. และยังพบว่าเอกสารที่ใช้ในการกู้ยืมเป็นเอกสารปลอม ไม่สามารถใช้เป็นเอกสารหรือหลักฐานในการค้ำประกันเงินกู้ได้จริง จึงร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบและดำเนินคดีกับจำเลยในที่สุด      

          สำหรับ นายสัมฤทธิ์ หรือเดอะบิ๊ก ได้รับฉายาว่า "ปาเกียว เมืองไทย" เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ "เดอะ แพ็คแมน"  แมนนี่ ปาเกียว นักชกชื่อดังแชมป์โลกขวัญใจชาวฟิลิปปินส์  ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ  กก.สส.บก.น.1จับกุมตัวเมื่อวันที่ 19 ม.ค.59     

          ส่วน นายสิทธินันท์ ถูกตำรวจสน.ดุสิต จับกุมตัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.59