
‘บิ๊กโจ๊ก’ นำทีมบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มาเลย์ฯ
ตร.ท่องเที่ยวสนธิกำลังฝ่ายปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมาเลย์ฯ บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไต้หวัน รวบ 5 ผู้ต้องหา ช่วย 11 คนไทยถูกบังคับรับโทรศัพท์
ภายใต้นโยบาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ป้องกัน และปรามปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ฯ สืบสวนหาข่าวและขยายผลจากการ จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญจนทราบว่ามีคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซียอีก และยังคอยหลอกลวงประชาชนคนไทย จึงได้ประสานความช่วยเหลือผ่านนางสาวนิภา นิรันดร์นุช อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท., พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท., พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.สภ.โคกกลอย จว.พังงา , พ.ต.อ.สมยศ ศรีศรยุทธ์ ผกก.กลุ่มงานประสานงานข่าวต่างประเทศ บก.ส.4 บช.ส. พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิสมัย รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง ,พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ., พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส. บก.น.1 , พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.ศิลา ตันตระกูล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. , พ.ต.ต.พรชัย สุขเจริญ สว.ฝ.ภูมิภาค 1 บก.ตท. ,ร.ต.อ.นที คุ้มล้วนล้อม ,รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ.บช.น. ,ร.ต.ต.สถาพร เทศบรรทัด รอง สว.(อก.) ฝอ.6 บก.อก.บช.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจมาเลเซีย ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวไทย บุกเข้าไปภายในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นย่านศรีเปอร์ตาลิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หลังสืบทราบว่าเป็นศูนย์สั่งการคอลเซ็นเตอร์แก๊งอาซื่อ ซึ่งเป็นแก๊งที่แตกออกมาจากแก๊งของนายเฉิน หยวน ไข่
จากการเข้าตรวจค้นภายในอาคารพบอุปกรณ์ทั้งโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมทั้งบัญชีรายชื่อเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ ที่ยังอยู่ระหว่างการสื่อสารเพื่อรอโอนเงิน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโพยรายชื่อเหยื่อและรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูงรวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อในแต่ละบริบท
นอกจากนี้ยังพบคนไทย ทำหน้าที่เป็นพนักงานคลอเซ็นเตอร์ ซึ่งถูกขังอยู่ภายในอาคาร 11 คน และชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมอีก 5 คน ในจำนวนนี้คือนายจู อี้ เต๋อ (อาซื่อ) หัวหน้าแก๊ง และนายหวัง ลู่ เฉิน (อาหวัง) ซึ่งเป็นระดับสั่งการอีกคน มีนายชัชนันท์หรือเฟิน เกตุพันธ์ และน.ส.ติรวดีหรือติ้ว ลิ้มติ้ว ถูกออกหมายจับ รวม 4 คนในข้อหา ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังและกรรโชกทรัพย์ โดยศาลจังหวัดนครปฐมไว้แล้วด้วย ซึ่งมีผู้ต้องหาระดับเจ้าของและสั่งการ ชาวไต้หวัน คือ นายไช่ หมิง หง ,นายหวัง ลู่ เฉิน (อาหวัง) ,น.ส.เจียง อี ทิง ,นายเสิ่น เยิ่น หยิง ,นายจู อี้ เต๋อ (อาซื่อ)
พล.ต.ต.รีสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. บอกว่า แก๊งนี้เพิ่งย้ายมาเช่าอาคารแห่งนี้ทำศูนย์คอลเซ็นเตอร์ 2 เดือน เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท และยังมีผู้ร่วมกันอีกคน ซึ่งเป็นชาวไต้หวัน ที่หลบหนีกลับประเทศไปได้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว
สำหรับการบุกเข้าทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศมาเลเซียครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือน เป็นการขยายผลการช่วยเหลือคนไทยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ประวัตินายจู อี้ เต๋อ (อาซื่อ) เคยทำงานให้นายเฉินหยวน ไข่ ระดับผู้จัดการดูแลทั้งหมด ต่อมาจึงได้แยกมาทำเอง