“เอเชีย ไบโอแมส” ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศ 25%

            นางสาวธิญาดา ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM กล่าวว่า บริษัท ตั้งเป้ายอดขาย 3-5 ปีข้างหน้า(ปี2561-2565) จะมีสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 25% จากปี2560 มียอดขายอยู่ที่ 10% และยอดขายในประเทศอยู่ที่ 75% จากปี2560 มียอดขายอยู่ที่ 90% โดยยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากตลาดเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ที่มีความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลทั้ง กะลาปาล์ม ไม้สับ ขี้เลื่อย และชีวมวลอัดแท่ง(Wood Pellet) เติบโตต่อเนื่องจากนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงสีเขียว 
             โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตได้เท่ากับทั้งปีที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะทำยอดขายได้ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก และจะส่งผลให้สัดส่วนยอขายต่างประเทศกลับมาเติบโตใกล้เคียงกับอดีตที่ 20% ขณะที่ในระยะยาว ตั้งเป้าสัดส่วนยอดต่างประเทสเพิ่มขึ้นเป็น 50% ซึ่งจะเน้นเพิ่มปริมาณยอดขายในเกาหลีและญี่ปุ่น รวมถึงเจาะตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น
            "ปัจจุบันราคาชีวมวลอัดแท่ง อยู่ที่ 130 ดอลลาร์ต่อตัน และกะลาปาล์มอยู่ ที่ 80 ดอลลาร์ต่อตัน คาดว่าราคาจะทรงตัวระดับนี้ต่อเนื่องไปได้อีก 2 ปี ซึ่งหากโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นก่อสร้างแล้วเสร็จอาจส่งผลให้วัตถุดิบตรึงตัวและเป็นแรงกดดันต่อราคา" นางสาวธิญาดา กล่าว
            ขณะที่ความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลในประเทศปีนี้ คาดว่าข จะเติบโตตามอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีพีดี)ปีนี้ที่ 3.5% ซึ่งจะส่งผลให้การใช้พลังงานหมุนเวียนโตขึ้น 4-5% โดยเฉพาะการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวต่อเนื่อง และโครงการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)จะเป็นโอกาสเพิ่มความต้องการใช้ในอนาคต 
              อย่างไรก็ตาม บริษัท มีความพร้อมในการจัดหาเชื้อเพลิงชีวมวลทั้งในและต่างประเทศ โดยมีคลังเก็บสินค้าในมาเลเซีย 3 แห่ง และอินโดนีเซีย 1 แห่ง เพื่อจัดซื้อกะลาปาล์มส่งออกไปญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ขณะที่ไทยมีคลังเก็บสินค้า 4 แห่ง ซึ่งจะปรับปรุงคลังสินค้าเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บสินค้า รวมถึงลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เน้นขนส่งทางเรือเป็นหลัก เพิื่อรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงในปัจจุบัน 
             โดยปีนี้ บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท แฟนซีวู๊ดอินดัสตรีส จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วน49%ต่อ51% จัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่ง ในจ.สุราษฎร์ธานี กำลังผลิตเฟสละ 5,000 ตันต่อเดือน ในเงินลงทุนรวม 160 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนของบริษัท 31 ล้านบาท ซึ่งเฟสแรกจะก่อสร้างปีนี้และเฟส2 เริ่มปี2562 
             รวมถึงจัดตั้งโรงงงานผลิตไม้สับและโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่ง ที่จ.สุราษฎร์ธานี อีก 1 แห่ง เงินลงทุน 20 ล้านบาท มีกำลังผลิตไม้สับ 1.2 แสนตันต่อปี และชีวมวลอัดแท่ง2.4หมื่นตันต่อปี อีกทั้งยังขยายพื้นที่คลังสินค้าจัดเก้บสินค้าในอินโดนีเซียและมาเลเซียอีก 30 ล้านบาท