
ชป.เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนทับเสลาช่วยสะแกกรัง
ชป.เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนทับเสลาช่วยสะแกกรัง
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงในกรณีมีข่าวแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี เริ่มวิกฤติ ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อกระชังปลาของเกษตรกรที่เลี้ยงไว้ที่เกิดขึ้นว่า ในช่วงฤดูแล้งของทุกๆ ปี ระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง จะอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าตลิ่งค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับผลจากการทดน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า ระดับน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ระดับ +15.59 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าตลิ่ง 5.74 เมตร โดยที่สถานีวัดน้ำ Ct.2A มีระดับน้ำสูงกว่า เมื่อเทียบวันเดียวกันกับปีที่ผ่านมา 0.25 เมตร เนื่องจากการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ได้ใช้น้ำจากการระบายน้ำของ 4 เขื่อนหลัก ประกอบด้วยเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ซึ่งปัจจุบันมีการระบายน้ำในอัตราเฉลี่ยวันละ 52.70 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายน้ำมากกว่าแผนอัตราวันละ 9.73 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อครอบคลุมการใช้น้ำในทุกกิจกรรมของลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ส่วนกรณีการเพาะเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำสะแกกรัง จาการตรวจสอบพบว่า อยู่บริเวณหน้าวัดโบสถ์ถึงศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี สถานการณ์ระดับน้ำในบริเวณดังกล่าว ถือเป็นสภาวะที่เป็นปกติของช่วงฤดูแล้ง และดีกว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้มีเกณฑ์การควบคุมระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในช่วงเดือนมกราคม 2561 ถึง เดือนเมษายน 2561 อยู่ระหว่าง +15.50 ถึง +16.00 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 กรมชลประทานโดยโครงการชลประทานอุทัยธานี ได้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสะแกกรังให้จังหวัด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบก่อนหน้านี้แล้ว และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน จึงได้ดำเนินการปรับการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำสะแกกรังจากเขื่อนทับเสลา อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จากเดิมวันละ 0.46 เป็น 0.86 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนวังร่มเกล้า อำเภอเมืองอุทัยธานี ในอัตราวันละ 0.69 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานขอความร่วมมือให้เกษตรผู้เพาะเลี้ยงปลากระชังขอให้ดำเนินการในช่วงเวลาที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล สอดคล้องกับภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วย