3ประสานฟอร์มแรงแห่งศึกลูกหนังยุโรป | คมชัดลึก

     ส่วนแผนการที่จะลงเล่นในแต่ละเกมนั้นก็ต้องแล้วแต่ว่ากุนซือของแต่ละทีมจะจัดออกมาเช่นไร อย่างไรก็ตามตำแหน่งที่เป็นจุดเด่นของทีม และได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากจากแฟนฟุตบอล นั่นก็คือ กองหน้า หรือแนวรุก ซึ่งถ้าทีมใดมีเกมรุกที่แข็งแกร่ง นั่นก็หมายถึงการผลิตสกอร์ที่มากขึ้น และมีโอกาสจบเกมด้วยการเป็นผู้ชนะ เนื่องจากฟุตบอลวัดกันที่การทำประตู

      โดยในฤดูกาลนี้ฟุตบอลลีกยุโรปทั้ง 5 ลีกใหญ่ ก็มีหลายทีมที่เล่นเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆให้วงการลูกหนังมากมาย ทำให้ล่าสุด “บรีชเชอร์ รีพอร์ท” ได้จัดอันดับ 3 แนวรุกของทีมชั้นนำที่มีสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่เปิดซีซั่นในลีกของประเทศตนเองจนถึงปัจจุบัน

5. ฟีร์มีโน, ซาลาห์, มาเน (ลิเวอร์พูล)

     ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นทีมที่มีแนวทางอย่างชัดเจนว่าเป็นทีมที่เน้นเกมรุก และการสวนกลับที่รวดเร็วจาก 3 แนวรุกในระบบ 4-3-3 มาตั้งแต่ที่เจ้าตัวเข้ามาคุมทีมในถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2015
     และในซีซั่นนี้พวกเขาได้ตัว โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ปีกจอมเทคนิคของทีมชาติอิยิปต์มาเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งถึงแม้ตอนแรกจะถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลว เนื่องจากแข้งวัย 25 ปีรายนี้เคยโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังกับ เชลซี มาแล้วเมื่อตอนปี 2014-2016
     อย่างไรก็ตามการกลับมาค้าแข้งในลีกแดนผู้ดีของ ซาลาห์ ในครั้งนี้ เขาได้งัดฟอร์มอันสุดยอดออกมา ทั้งสปีดในการเลี้ยงบอล, การแอสซิสต์ให้เพื่อน และการทำประตูที่เฉียบคม จนทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าแห่งปี
     และเมื่อเจ้าตัวมาประสานงานกับ ฟีร์มีโน และ มาเน ที่มีศักยภาพอยู่แล้ว ก็ทำให้ทีม “หงส์แดง” กลายเป็นเครื่องจักรสีแดงอีกครั้ง และถล่มประตูรวมกัน 3 คนที่ 34 ประตูกับ 15 แอสซิสต์

4.เคน, อิริคเซน, ซอน-เฮือง มิน (สเปอร์ส)

     ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มีแผงเกมรุกที่ทรงประสิทธิภาพ นำมาโดย แฮร์รี่ เคน, คริสเตียน อิริคเซน และเดเล่ อัลลี ถึงกระนั้นรายหลังสุด กลับมีปัญหาเรื่องฟอร์มตกจนส่งผลให้ทีมเกิดภาวะฟอร์มฝืดในช่วงแรก
     ถึงกระนั้นสถานการณ์ได้สร้างวีรบุรุษเสมอเมื่อ ซอน-เฮือง มิน กองหน้าทีมชาติเกาหลีใต้ ได้โอกาสลงสนามมาแทนที่ของ อัลลี และเจ้าตัวก็ประสานงานกับ เคน และ อิริคเซน ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งสามคนมีจุดเด่นที่ต่างกัน โดย เคน เด่นเรื่องการจบสกอร์, อิริคเซน เด่นเรื่องการจ่ายบอลแม่นยำ และซอน เด่นเรื่องการหาช่อง จนเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน
     โดยขณะนี้พวกเขา 3 คนทำรวมกันไปแล้ว 35 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ โดยเฉพาะ เคน ที่รั้งตำแหน่งดาวซัลโวของลีกด้วยจำนวน 21 ลูก

3. อเกวโร, ซาเน, สเตอร์ลิง (แมนฯซิตี)

     หากจะพูดถึงทีมที่ฟอร์มแรงที่สุดในฤดูกาลนี้ และมีลุ้นในการคว้าแชมป์ถึง 4 รายการคงจะหนีไม่พ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่มีความแกร่งไปทั่วแผ่นภายใต้การนำของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมสมองเพชร
     โดยเฉพาะเกมรุกที่ “เรือใบสีฟ้า” ที่มีนักเตะให้เลือกสรรอย่างมากมาย ทั้งนักเตะเก่าอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร, ลีรอย ซาเน, ดาบิด ซิลบา รวมถึงนักเตะใหม่อย่าง แบร์นาร์โด ซิลวา เป็นต้น ถึงกระนั้น 3 นักเตะเกมรุกที่ได้รับโอกาสลงสนามมากที่สุด และทำผลงานโดดเด่น ประกอบด้วย เซร์คิโอ อเกวโร, ลีรอย ซาเน และราฮีม สเตอร์ลิง ที่ยิงรวมกันไปแล้ว 37 ประตูกับอีก 19 แอสซิสต์
      สำหรับทั้ง 3 คน ถือเป็นฝันร้ายของกองหลังฝั่งตรงข้ามเนื่องจากมีทั้ง ความเร็ว, ความสามารถเฉพาะตัว และการทำประตูที่แม่นยำ โดยเฉพาะ สเตอร์ลิง ที่พัฒนาตัวเองขึ้นมาได้อย่างมาก ด้วยการทำไปแล้วถึง 14 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์เลยทีเดียว

2. เมสซี, ซัวเรซ เปาลินโญ (บาร์เซโลนา)

     หลังจากที่ บาร์เซโลนา ต้องเสีย เนยมาร์ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ของทีมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “เอ็มเอสเอ็น” ไปให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัวสถิติโลกถึง 198 ล้านปอนด์ (ราว 8.5 พันล้านบาท) ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า “เจ้าบุญทุ่ม” จะเข้ายุคตกต่ำหรือไม่
     รวมถึงในตอนแรก เอร์เนสโต บัลเบร์เด กุนซือใหม่ของทีม ปรับแผนการเล่นจากการใช้กองหน้า 3 คน มาเป็นกองหน้า 2 คน ก็ทำให้ทีมยังไม่ลงตัว ถึงกระนั้นหลังจากที่นักเตะจับจุดได้ และการเข้ามาใหม่ของ เปาลินโญ กองกลางทีมชาติบราซิล สามประสานในเกมรุกยุคใหม่ของ บาร์ซา ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น
     โดย เปาลินโญ จะเป็นคนทำเกมขึ้นไป แล้วฝากบอลให้กับ เมสซี ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเลี้ยงบอลเพื่อไปจบสกอร์เอง หรือจะจ่ายให้กับ ซัวเรซ ยิงประตูแทน ซึ่งถือแม้ว่าจะเป็นส่วนผสมที่ดูเรียบง่าย แต่กลับมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก เนื่องจากในขณะนี้พวกเขาคือทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในลีกดังยุโรป และนำเป็นจ่าฝูงของลาลีกา ในขณะนี้
      ส่วนสถิติการทำประตูพวกเขาทั้ง 3 คนทำรวมกันไปแล้ว 42 ประตูกับอีก 15 แอสซิสต์

1. คาวานี, เนย์มาร์, เอ็มบัปเป (เปแอสเช)
     ส่วนอันดับที่ 1 คงจะเป็น 3 เกมรุกของทีมใดไปไม่ได้นอกจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มีมูลค่ารวมกันเกิน 500 ล้านปอนด์ (ราว 2.1 หมื่นล้านบาท) อย่างแน่นอน แม้ในช่วงแรก เอดินสัน คาวานี หัวหอกทีมชาติอุรกวัย กับ เนยมาร์ ดาวเตะทีมชาติบราซิล จะมีปัญหากันบ้าง แต่เมื่อทั้งคู่เคลียร์ปัญหากันได้ ประกอบกับที่ คิเลียน เอ็มบัปเป ดาวโรจน์ทีมชาติฝรั่งเศสยังฟอร์มแรงไม่หยุด จนส่งผลให้ทั้ง 3 คนทำสกอร์ได้แบบเป็นกอบเป็นกำ
      หากแยกเป็นเฉพาะบุคคล คนที่ทำได้ดีที่สุด คือ คาวานี ด้วยจำนวน 20 ประตู และขึ้นไปรั้งดาวซัลโวตลอดกาลของสโมสรแล้วด้วยจำนวน 156 ลูก เท่ากับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตามมาด้วย เนย์มาร์ ที่ 15 ประตู และ เอ็มบัปเป ที่ 9 ประตู ส่วนการแอสซิสต์ทั้งหมดทำรวมกันอยู่ 20 ประตู
     ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของทั้ง 3 คนทำให้ เปแอสเช กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกทรงอานุภาพมากที่สุด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เสียไป
     

      ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ 3 ประสานแนวรุกของ 5 ทีมที่มีความอันตรายมากที่สุด ซึ่งต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้วเมื่อจบฤดูกาลพวกเขาจะช่วยกันทำคนละกี่ประตู รวมถึงช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในถ้วยรางวัลใดบ้าง