
เผยสถิติอุบัติเหตุจราจรไทยติดอันดับ5ของโลก
เผยสถิติอุบัติเหตุของไทยติดอันดับ 5 ของโลก ด้าน สอจร.จัดติวเข้มป้องกันอุบัติเหตุจราจรภาคใต้ ด้าน ศวปถ. ย้ำต้องให้ความรู้คนไทยสร้างถนนปลอดภัย สร้างเครือข่ายให้ลงท้องถิ่นให้มากขึ้น
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.พ. ที่ห้องประชุมโรงแรมโบ๊ทลากูน อ.เมือง จ.ภูเก็ต คณะทำงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรในจังหวัดนำร่อง (สอจร.) ภาคใต้ จัดเวทีแลกเปลี่ยนเชิงปฏิบัติการแผนงานสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด โดยมีนายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) เป็นผู้ให้ความรู้และนโยบาย ร่วมกับบุคลากรจากส่วนราชการ ภาคีเครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุจาก 14 จังหวัดภาคใต้
นายแพทย์ธนะพงศ์ กล่าวว่า สอจร.กำลังเข้าสู่ปฏิบัติการในระยะที่ 4 ซึ่งจะต้องกำหนดทิศทางการทำงานด้านวิชาการให้ผสมผสานเข้าไปในการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ 5E อย่างที่ปฏิบัติกันมา คือ การบังคับใช้กฎหมาย (Enforcement) ให้การศึกษา ( Education) การช่วยเหลือฉุกเฉิน (Emergency Medical Service) ด้านวิศวกรรมจราจร ( Engineering) ด้านการมีส่วนร่วม ( Empowerment) โดยการทำงานในระยะที่ 4 จะเพิ่มความเข้มข้นด้านการวิจัยและประเมินผล (Evaluation) ให้มากขึ้น
ทิศทางแผนยุทธศาสตร์ของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ในปี พ.ศ. 2552-2553 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “คนไทยปลอดภัยจากอุบัติภัยทางถนน” โดยมีพันธกิจในการพัฒนาความรู้ทางวิชาการและใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วและสร้างขึ้นใหม่ เชื่อมประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อสร้างและใช้ความรู้และข้อมูลสำหรับการพัฒนานโยบายและใช้ประโยชน์ทั้งในระดับชาติและในพื้นที่ ส่วนยุทธศาสตร์การทำงานนั้นจะมีการพัฒนาระบบข้อมูลในด้านการจัดการและการเชื่อมโยงระบบข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจร เช่น สาเหตุ ความถี่ ช่วงเวลา สถานการณ์ของผู้บาดเจ็บ เป็นต้น พัฒนากลไกและสนับสนุนงานวิจัยที่จำเป็นต่อการพัฒนานโยบายสาธารณะ พัฒนาบุคลากรโดยเพิ่มสมรรถนะในการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจรของบุคลากรที่เป็นแกนหลักและภาคีผู้เกี่ยวข้อง สื่อสารสาธารณะให้มากขึ้นด้วยการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำความรู้ไปปฏิบัติ และพัฒนาเครือข่ายในระดับพื้นที่ ด้วยการเชิญและเชื่อมให้มีคนในจังหวัดและท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมป้องกันอุบัติเหตุมากขึ้น
การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจราจรทางถนน ได้ถูกยกให้เป็นวาระแห่งชาติในปี 2548 และมีการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 ระยะ แต่สถิติการเกิดอุบัติเหตุของประเทศไทยยังอยู่ใน 5 อันดับต้นของสถิติโลก มูลค่าความเสียหายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสูงมากกว่า 2 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.8% ของ GDP จึงเป็นสิ่งสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทุกภาคส่วนจะต้องหันมาช่วยกันป้องกันอุบัติเหตุให้ได้การทำงานของบรรดาพันธมิตรร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุมีหลายองค์กร เช่น สสส. สอจร. มูลนิธิเมาไม่ขับ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ รวมทั้งศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน โดยทางศูนย์ฯ คอยป้อนความรู้ทาง วิชาการให้กับเหล่าพี่เลี้ยง
สอจร. และคอยประคับประคองคณะทำงานของแต่ละจังหวัด จากการทำงานใน 3 ระยะที่ผ่านมาทั้ง 69 จังหวัด มีผู้ที่เสียสละอาสาเข้ามาร่วมทำงานกับ สอจร.โดยมีประสบการณ์ทำงานที่ต่างกัน เช่น ตำรวจ ครูอาจารย์ สาธารณสุขจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ทางหลวงจังหวัดฯ ศวปถ. นำความรู้ที่ได้จากการทำวิจัยค้นคว้ามาอย่างเช่น การดูถึงสาเหตุของการชนท้าย การขับรถเร็ว การเกิดอุบัติเหตุของรถบัส รถบรรทุก ว่าเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง จากนั้นก็นำข้อสรุปมาสร้างนวัตกรรมความรู้เพื่อป้องกัน บางครั้งก็ใช้วัฒนธรรมพื้นบ้านหรือตัวบุคคลมาเป็นตัวช่วยเสริมพลังในการป้องกันเพิ่มด้วย นายแพทย์ ธนะพงศ์ กล่าว