
จ้างแชมป์โลก ติวนักเต้นไทย ลุยอินดอร์เกมส์
ลีลาศ ทุ่มจ้างโค้ชระดับแชมป์โลกทั้ง อังกฤษ และรัสเซีย ติวเข้มนักเต้นไทยในโค้งสุดท้ายก่อนทำศึกเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่เวียดนาม แอบหวังคว้าเหรียญทองเป็นสมัยแรก แม้จะเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และคาซัคสถาน
นายสิทธิชัย ปรียาดารา เลขาธิการสมาคมลีลาศแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการเตรียมทีมนักกีฬาลีลาศทีมชาติไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม-8 พฤศจิกายน ว่า ขณะนี้สมาคมได้ส่งรายชื่อนักกีฬาให้คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยมีทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็น 4 คู่ ได้แก่ วัชรากรณ์ เสือสืบพันธุ์-ม.ล.วราภา ชุมพล (ละติน), ธีระวุฒิ ถมเมืองปัก-พุตินาฎ คณิตนุสรณ์ (ละติน), ปวัตน์พงศ์ ราชอาภัย-ฐิติญาภา โพธมู (สแตนดาร์ด), อภิชัย พรหมบุญ-ภคอร คุ่ยต่วน โดยมี น.ส.อภิญญา เลื่อนฉวี เป็นผู้จัดการทีม ส่วนตนกับ น.ส.กาญจนา จรูญ เป็นผู้ฝึกสอน
ทั้งนี้ นักกีฬาทั้งหมดร่วมฝึกซ้อมอยู่ที่ทำการสมาคม ย่านตรอกจันทน์ โดยวันที่ 4-9 ตุลาคมนี้ สมาคมทุ่มเงินวันละกว่า 60,000 บาท เพื่อจ้าง ริชาร์ดส์ ฮันท์ อดีตแชมป์โลกชาวอังกฤษ มาฝึกสอนให้นักกีฬาไทย ในท่าสแตนดาร์ด จากนั้นวันที่ 7-10 ตุลาคม ก็จะเชิญ ดิมิทรี อดีตแชมป์โลกชาวรัสเซีย ที่เพิ่งประกาศเลิกเล่นไปเมื่อเร็วๆ นี้ มาติวเข้มในท่าละตินอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าในโค้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์กนักกีฬาของไทยซึ่งได้ฝึกซ้อมกับโค้ชระดับโลกจะช่วยเพิ่มประสบการณ์และเทคนิคการเต้นได้เป็นอย่างดี และจะเพิ่มขีดความสามารถให้แก่นักกีฬามากขึ้น
สำหรับความหวังในการแข่งขันนั้น นายสิทธิชัยกล่าวว่า เอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ครั้งนี้ มีชิงชัย 10 เหรียญทอง แต่กำหนดให้แต่ละชาติส่งนักกีฬาได้ไม่เกิน 8 รายการ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่เหรียญจะกระจายไปยังชาติต่างๆ ได้ โดยผลงานของไทยที่ผ่านมานั้นยังไม่เคยได้เหรียญทอง โดยครั้งที่ 1 คว้ามาได้ 1 เหรียญทองแดง ส่วนครั้งที่ 2 คว้าได้ 2 เหรียญเงิน กับ 1 เหรียญทองแดง ส่วนครั้งนี้นักกีฬามุ่งมั่นที่จะคว้าเหรียญทองเหรียญแรกอย่างมาก โดยมี วัชรากรณ์ เสือสืบพันธุ์ กับ ม.ล.วราภา ชุมพล คู่มือ 1 ของไทย เป็นความหวัง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในเอเชียยังมีนักกีฬาอีกหลายชาติที่แข็งแกร่ง อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และคาซัคสถาน ซึ่งสมาคมต้องการที่จะคว้าเหรียญทองเป็นครั้งแรก แต่คงจะไม่ง่ายนัก



