
'หมวดเจี๊ยบ'รับทราบข้อหา'พ.ร.บ.คอมฯ-ยุยงปลุกปั่น'
อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทยโร่พบตำรวจ ปอท. พร้อมหอบฝรั่งตาน้ำข้าวหลายชาติ ร่วมสังเกตการณ์
จากกรณี พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการ ประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมบัติ สมบัติโยธา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง หรือหมวดเจี๊ยบ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ความผิดเข้าข่าย 1.นำเข้าข้อมูลเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) และ 2.ข้อหายุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 หลังวิจารณ์นายกฯ และรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม 2560 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร.ท.หญิง สุณิสา คณะทำงานสำนักเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมตัวแทนจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สมาพันธ์ยุโรป เจ้าหน้าที่ทางการฑูตประจำประเทศไทย อาทิ ประเทศอังกฤษ ประเทศเยอรมัน ประเทศนอเวย์ ฯลฯ ร่วมสังเกตการณ์ นอกจากนี้ยังมีนักการเมืองพรรคเพื่อไทย พร้อมบรรดาแฟนคลับการเมืองมาให้กำลังใจ
ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องหานั้น ขอยืนยันคำเดิมว่า ตนทำในสิ่งที่ถูกต้อง การที่วิพากษ์วิจารณ์นั้น เป็นการปกป้องประเทศ ในครั้งก่อนทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 6 กระทง และมาแจ้งอีก 3 กระทง ซึ่งการแจ้งความนั้น ได้นำเอกสารคือข้อความการโพสต์เก่าๆ ซึ่งโพสต์เมื่อวันที่ 30 กันยายน และวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งไม่ใช่ประเด็นใหม่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาของ พล.อ.ประยุทธ์ ในประเด็นการซื้ออาวุธ ความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับไทยอันเนื่องมาจากการเจรจาไทย-สหรัฐอเมริกา
ร.ท.หญิง สุณิสา เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือจากทาง บก.ปอท.ไปยังสถานฑูตต่างๆ ประจำประเทศไทย ที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ เชิงข่มขู่ว่าจะดำเนินคดี ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านทำอะไรอยู่ ประเทศไทยเป็นเมืองศิวิไล นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความกลัวของทางรัฐบาลอีกด้วย นักการฑูตเพียงเข้ามาสังเกตการณ์ตามพันธกรณีในเรื่องของการปกป้องสิทธิมนุษยชน ดังนั้น ต่างประเทศก็มีความเกี่ยวข้องเพียงแค่ร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น นักการฑูตไม่สามารถแทรกแซงทางการเมืองได้ อยากชี้ให้ประชาชนไทยได้เห็น มนุษย์เราทุกคนเกิดมานอกจากจะมีหน้าที่ของตนเองแล้ว ก็มีหน้าที่ปกป้องประเทศด้วย โดยการผลักดันในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ถ้าหากเป็นทองแท้ ย่อมไม่ต้องกลัวไฟ หรือท่านเป็นเพียงสังกะสีผุๆ ที่ย่อมกลัวไฟ
นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า ในวันนี้ทราบว่าจะมีการออกหมายเรียกเพิ่มเติม จึงได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นเรื่องเก่า ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่เบื้องต้นตนยังไม่ได้รับหมายจับ แต่ทราบจากทางนักข่าว จึงได้รีบเดินทางมา ก็ต้องดูว่าทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหาอะไร