ข่าว

น้ำท่วม“หัวหิน”หนักเพชรเกษม-เส้นทางรถไฟชะงัก

น้ำท่วม“หัวหิน”หนักเพชรเกษม-เส้นทางรถไฟชะงัก

21 พ.ย. 2560

ดีเปรสชันคีโรกี ทำน้ำท่วมขังในพื้นที่เศรษฐกิจของเมืองหัวหิน ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมขัง-เส้นทางรถไฟระหว่าวสถานีวังก์พง-สถานีเขาเต่า หัวหิน รถไฟผ่านไม่ได้

 

          12 พ.ย.60  เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ มาจนถึงวันนี้ และยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น คีโรกี ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน

          ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องกันอย่างหนักหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เศรษฐกิจ และบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินและเส้นทางการคมนาคมที่จะเข้าสู่เมืองหัวหิน และเส้นทางรถไฟบางช่วงระหว่างสถานีรถไฟเขาเต่าหัวหิน-สถานีรถไฟวังก์พง ปราณบุรี มีน้ำท่วมสูงจากสันราง 30 ซม.เป็นระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร ทำให้ทางการรถไฟต้องประกาศหยุดเดินรถเป็นการชั่วคราว

 

น้ำท่วม“หัวหิน”หนักเพชรเกษม-เส้นทางรถไฟชะงัก

 

          ขณะที่ พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวว่าเส้นทางรถยนต์ที่มาจากอำเภอปราณบุรี ที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหัวหิน ผ่านอุทยานราชภักดิ์ ได้ประสานให้ทาง สภ.ปราณบุรี ปิดเส้นทางที่จะเข้ามาหัวหิน ให้ใช้เส้นทางถนนบายพาสแทนเพื่อมุ่งหน้าไปยังชะอำ และเข้ากรุงเทพฯ แทนที่จะผ่านเข้ามาสู่ตัวเมืองชั้นในของเมืองหัวหิน เนื่องจากบริเวณเส้นทางถนนเพชรเกษมที่จะมุ่งหน้าผ่านมายังสะพานต่างระดับ เข้าสู่เมืองหัวหิน มีน้ำท่วมสูงรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ต้องปิดเส้นทางดังกล่าว

 

น้ำท่วม“หัวหิน”หนักเพชรเกษม-เส้นทางรถไฟชะงัก

 

          ส่วนบริเวณถนนเพชรเกษมตลอดแนวตั้งแต่สะพานต่างระดับ ที่จะมุ่งหน้าผ่านเข้าไปยังสี่แยกเทศบาลเมืองหัวหิน หน้าโรงแรมหัวแกรนด์แอนด์พลาซ่า และหน้าศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน มีน้ำท่วมขังบนผิวการจราจร มีน้ำท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร รถยนต์ต้องชะลอความเร็วและสัญจรด้วยความระมัดระวัง ซึ่งทางนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้ประกาศปิดโรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองหัวหิน แล้ว

          อย่างไรก็ตามบริเวณซอยหัวหิน112 ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังสูง และวิกฤติมากที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่จุดรวมรับน้ำจากเทือเขาในตำบลทับใต้ และตัวเมืองหัวหิน

 

น้ำท่วม“หัวหิน”หนักเพชรเกษม-เส้นทางรถไฟชะงัก

 

          โดยนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองหัวหิน แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน) และตำรวจภูธรหัวหิน ทหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถานและ นายเจษฏา วัฒนานุรักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบฯ เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 หัวและเครื่องสูบน้ำระยะไกลเร่งสูบน้ำจากถนนเพชรเกษมบริเวณก่อนขึ้นสะพานต่างระดับ นาทีละ 30,000 ลิตรลงสู่คลองพระบายน้ำ เพื่อช่วยให้น้ำระบายลงสู่คลองพระราชดำริที่คลองเขาตะเกียบ ออกทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อลดปริมาณน้ำในซอยหัวหิน 112 นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังต้องเร่งเคลื่อนย้ายแท่งปูนออกจากถนน เพื่อเปิดทางระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

          นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า เทศบาลเมืองหัวหินได้มีการเตรียมพร้อมในการระบายน้ำ ในจุดน้ำท่วมซ้ำซาก โดยในซอยหัวหิน102 ได้มีการเดินเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติอย่างเต็มกำลัง รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม 2 จุดที่บริเวณด้านหลังวัดเขาไกรลาส เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองพระราชดำริออกมสู่ทะเล ขณะนี้กำลังเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ระดับน้ำในพื้นที่ต่างๆ อาจจะยังไม่ลดระดับ เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดเวลา นอกจากนั้นบริเวณเส้นทางถนนเลียบคลองชลประทาน มีน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำในคลองชลประทาน และน้ำในคลองพระราชดำริที่ระบายลงสู่ทะเล ได้เอ่อล้นออกมาอย่างต่อเนื่อง

          อย่างไรก็ตามเส้นทางรถไฟก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบนสันรางรถไฟ 30 ซม.เป็นระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร ระหว่างสถานีรถไฟวังก์พง-สถานีรถไฟเขาเต่า หัวหินทำให้การรถไฟยังไม่สามารถเปิดเดินรถไฟผ่านบริเวณสถานีดังกล่าวได้

          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่านอกจากนั้นบริเวณหมู่บ้านจัดสรรในซอยหัวหิน 102 ยังประสบปัญหาน้ำท่วมสูงประมาณ 50 -80 ซม. ถึงแม้ทางเทศบาลเมืองหัวหิน จะได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ป้องกันแล้วก็ตามแต่เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืน รวมไปถึงบ้านเรือประชาชนในซอยหัวหิน 112 ซึ่งน้ำป่าได้ไหลจากภูเขาลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ทาเทศบาลเมืองหัวหิน ทหารค่ายธนะรัชต์ และฝ่ายปกครอง ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้องได้เร่งเข้าช่วยเหลือ และนำชาวบ้านที่ต้องการออกมาด้านนอกออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ถูกน้ำท่วม