กระชากสร้อยแทงเหยื่อพลาดถูกเด็กวัย2ขวบเอ็นข้อมือขาด | คมชัดลึก

เหตุคนร้ายกระชากสร้อยแล้วแทงเหยื่อ โดนเด็ก 2 ขวบจนเอ็นข้อมือขาด เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์  พ.ต.ท.สาโรช สกุลวงศ์ สารวัตรเวร สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 82 หมู่ 3 ภายในซอยเพชรเกษม 54 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าพลเมืองดีได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.บางไผ่ จึงเดินทางไปสอบปากคำ พบผู้บาดเจ็บคือ ด.ญ.วัชรี หรือ ภรารัตนวัฒน์ น้องฟ้าใส อายุ 2 ขวบ 9 เดือน ถูกแทงที่บริเวณข้อมือด้านซ้าย เป็นแผลลึกทำให้เอ็นข้อมือขาด แพทย์รักษาเบื้องต้นและให้พักรักษาตัวที่ห้อง 503 เพื่อผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง 
 นางน้อง ภรารัตนวัฒน์ อายุ 27 ปี มารดาของน้องฟ้าใส ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้พาน้องฟ้าใสซ้อนท้ายรถจักรยานออกจากบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เพื่อที่จะไปเติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ตู้เติมเงินระบบหยอดเหรียญ ระหว่างที่กำลังหยอดเหรียญเติมเงินอยู่นั้นมีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20 ปี สวมหมวกกันน็อกสีดำ แจ็กเก็ตสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง สีแดง จำยี่ห้อและทะเบียนไม่ได้ เข้ามาจอด และพูดคุยทำทีขอแลกเศษสตางค์เพื่อโทรศัพท์
 "ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น ชายคนดังกล่าวได้แสดงท่าทางมีพิรุธ ไม่น่าไว้วางใจ จึงพาลูกเข้าไปหลบภายในบ้านของเพื่อนบ้าน ระหว่างที่กำลังหันหลังอยู่นั้น คนร้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แต่ได้ไปเพียงบางส่วน ที่เหลือหลุดติดค้างอยู่ในคอเสื้อ ตอนเกิดเหตุฉันล้มลง เมื่อตั้งสติได้หันไปหาลูกสาวเห็นข้อมือซ้ายลูกเลือดไหล ส่วนคนร้ายหลบหนีไปทางด้านหลังซอย ซึ่งเชื่อมต่อไปยังซอยเพชรเกษม 48 ฉันจำหน้าคนร้ายไม่ได้ และยังไม่รู้ว่าคนร้ายใช้มีดฟันตอนไหน" นางน้องกล่าว
 ทางด้านนายธวัช ภรารัตนวัฒน์  อายุ 41 ปี  บิดาของน้องฟ้าใส ได้มานั่งเฝ้าดูอาการของลูกสาวด้วยความเป็นห่วง กล่าวว่า ปกติแล้วบริเวณจุดเกิดเหตุไม่ใช่สถานที่เปลี่ยวมากนัก มีวินรถสองแถวตั้งอยู่ ซึ่งจะมีชาวบ้านมายืนรอรถเป็นประจำ ส่วนบริเวณที่ตั้งเครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถือ จะอยู่หน้าร้านขายอาหารตามสั่ง แต่บังเอิญวันนี้ร้านดังกล่าวไม่ได้ขาย
 "เข้าใจว่าคนร้ายอาศัยช่วงจังหวะปลอดคน จึงลงมือก่อเหตุ รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับลูกสาว ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงได้ถึงขนาดนี้" นายธวัชกล่าว
 ขณะที่ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าวมักจะเกิดเหตุการณ์ชิงทรัพย์ กระชากกระเป๋า กระชากสร้อยบ่อยครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน