
"นิพิฏฐ์"อัดบิ๊กตู่ไม่ควรตั้ง 6 คำถาม
"นิพิฏฐ์"อัด"บิ๊กตู่"ตั้ง 6 คำถามประชาชนไม่ประเทืองปัญญา-ก่อความขัดแย้ง ไม่เข้าใจปชต.
8 พ.ย. 60 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ตั้ง 6 คำถามว่า ที่ถามว่าต้องมีพรรคการเมืองใหม่ หรือนักการเมืองหน้าใหม่ ให้ประชาชนเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น คือปกติแล้ว นักการเมืองหน้าใหม่หรือพรรคการใหม่ เกิดขึ้นทุกครั้งโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องถามประชาชนเรื่องนี้เขาจะตัดสินของเขาเอง ส่วนการได้นักการเมืองคนเดิม ๆ แล้วจะเกิดการปฏิรูปหรือไม่นั้น คนเก่า ๆ เขาก็ดีตรงที่มีประสบการณ์ ลองคิดดู ถ้ามีแต่คนใหม่ ๆ อายุน้อย ๆ อย่างเดียวก็วุ่นวาย ดังนั้นควรมีผสมผสานกัน
ส่วนคำถามที่ว่า คสช. จะสนับสนุนพรรคไหนก็เป็นสิทธิ์ใช่หรือไม่นั้น จริง ๆ แล้วถ้าคสช.สนับสนุนพรรคใดก็เป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ เพราะในระหว่างเลือกตั้งนั้น ข้าราชการจะต้องวางตัวเป็นกลาง ไม่ควรเข้าข้างฝ่ายใด คราวนี้ คสช.ที่มีอำนาจทางการบริหารและตุลาการ อีกทั้งยังมีอำนาจตามมาตรา 44 ถ้าหัวหน้าคสช. ลุกขึ้นประกาศสนับสนุนพรรคใด ถามว่าข้าราชการจะเชียร์ใคร
ส่วนที่ถามว่า การเอาแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอดีต มาเปรียบเทียบตอนนี้ เป็นเรื่องที่เปรียบเทียบกันไม่ได้ ระบบอำนาจความคิดไม่เหมือนกัน อย่าไปเบี่ยงเบนให้คนหลงไหลในระบบเผด็จการเลย ในคำถามที่ว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ตามระบอบประชาธิปไตยสมัยก่อน มีประสิทธิภาพ ธรรมาภิบาล เพียงพอหรือไม่นั้น คำถามนี้แสดงให้เห็นว่าคนถามไม่เข้าใจว่าระบบกับตัวบุคคลมีความแตกต่างอย่างไร คนถามกำลังจะบอกว่าที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่ปัญหาที่ระบบ แต่เป็นเรื่องของตัวบุคคล เขากำลังโทษที่ระบบ เหมือนคนเมาขับรถชนเสา แล้วเราจะไปโทษรถก็ไม่ถูกต้อง เพราะจริง ๆ แล้วคนผิดคือคนเมา
เมื่อถามถึง คำถามที่ระบุว่า เหตุใดนักการเมืองถึงเคลื่อนไหว วิจารณ์เพื่อให้คสช.ด้อยค่า นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ความจริงนักการเมืองเขาก็ใช้สิทธิของเขาในการวิจารณ์ ตามสิทธิที่เขาควรจะได้หลังจากที่กฎหมายพรรคการเมืองคลอดออกมาแล้ว และถ้ามีการบิดเบือนอะไรรัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจงไปเลยว่าผิดถูกอย่างไร ซึ่งไม่แปลกอะไรที่จะมีคนทวงสิทธิการเคลื่อนไหว เพราะกฎหมายลูกพรรคการเมืองก็ออกมาแล้ว
"คำถามที่เขาถามมากไม่ใช่การโยนหินถามทางตั้งพรรคการเมือง แต่เป็นความตั้งใจโยนหินใส่หัวเลย ไม่รู้ว่ารัฐบาลมีเจตนาต้องการถามเพื่ออะไร แต่คำถามพวกนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้ง มีการโต้เถียง เป็นคำถามที่ไม่เข้าท่าและไม่ประเทืองปัญญา ไม่ควรจะถามด้วยซ้ำ ส่วนตัวคิดว่าคำถามนี้เป็นการถามเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง ถามเพื่อยกยอตัวเองและไปตำหนิคนอื่น" รองหัวหน้าประชาธิปัตย์กล่าว



