"เรือ"ถวายพระเกียรติกับภารกิจ"มิสกวัน บัวรา"

 ยานพาหนะแห่งความภาคภูมิใจแห่งกองบังคับการตำรวจน้ำ ที่มีโอกาสปฏิบัติราชการถวายใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ยามเมื่อเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค หรือประทับอยู่ใกล้ชายฝั่ง 

 "ศรีนครินทร์" เรือตรวจการณ์ขนาด 180 ฟุต ที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจถวายความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้นประทับอยู่ที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน กำลังจอดเทียบคู่อยู่กับ "ดำรงราชานุภาพ" เรือตรวจการณ์เกียรติยศแห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพียงลำเดียว ที่มีปืนประจำเรือขนาด 3 นิ้ว และใช้ยิงสลุตหลวงทุกวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี

 พล.ต.ต.มิสกวัน บัวรา ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจน้ำ ได้พาทัวร์เรือตรวจการณ์ลำพิเศษและบอกเล่าถึงภารกิจอันแสนภาคภูมิใจในภารกิจรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิด และการปราบปรามอาชญากรรมทางน้ำ แถมยังคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

 -ภารกิจสำคัญอันดับแรกของตำรวจน้ำ

 พล.ต.ต.มิสกวัน : ภารกิจสำคัญอันดับแรกของตำรวจน้ำคือ การถวายความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่จะเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำ และรวมถึงพระราชอาคันตุกะ แขกคนสำคัญของรัฐบาลด้วย

การปฏิบัติภารกิจหลักดูแลถวายความปลอดภัยในพระราชพิธีทอดผ้าพระกฐินทางชลมารค การเสด็จพระราชดำเนินในที่พื้นที่ติดน้ำ ติดทะเล ฯลฯ ตำรวจน้ำจะส่งเรือตรวจการณ์ ปฏิบัติการร่วมกับทหารเรือ ซึ่งเรามีเรือตรวจการณ์และนักปฏิบัติการใต้น้ำ เพื่อตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางน้ำทั้งหมด 

 -นักปฏิบัติการใต้น้ำปฏิบัติหน้าที่อย่างไร

 พล.ต.ต.มิสกวัน : นักปฏิบัติการใต้น้ำ จะทำหน้าที่ถวายและป้องกันความปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้และยังคอยช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยชายฝั่งทะเลหรือลำคลอง ช่วยเหลือพนักงานสอบสวนในการค้นหาวัตถุพยาน เช่น คนร้ายเอาปืนทิ้งลงน้ำ ก็จะจัดทีมมนุษย์กบลงไปค้นหา และรวมถึงการค้นหาศพที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีเช่นเรือล่ม ประสบภัยพิบัติ ตลอดจนการค้นหาศพในตู้คอนเทนเนอร์ตามข่าวลือที่ประชาชนสนใจ นอกจากนี้ ยังคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวบริเวณชายหาด-ชายฝั่งด้วย

-ขอบข่ายงานด้านป้องกันปราบปราม

 พล.ต.ต.มิสกวัน : งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางน้ำ ก็เหมือนตำรวจสายตรวจบนท้องถนน เพียงแต่พื้นที่ความรับผิดชอบ “ทะเลอาณาเขต” คือ ทะเลที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง 12 ไมล์ทะเล และ “เขตต่อเนื่องจาก” ซึ่งนับจากพื้นที่ทะเลอาณาเขตไปอีก 12 ไมล์ทะเล รวมพื้นที่ความรับผิดชอบ 24 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง

 ตำรวจน้ำทำหน้าที่เสมือนรั้วชายแดนทางน้ำ ติดตามป้องกันปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายรัฐบาล เช่น ขบวนการค้ายาเสพติดในลุ่มน้ำโขง พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน คนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เคยจับกุมได้ทั้งชาวโรฮิงญา เกาหลีเหนือ เป็นต้น

 -สถานการณ์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน
 
 พล.ต.ต.มิสกวัน : ตอนนี้เปลี่ยนชื่อจากการปราบปรามน้ำมันเถื่อนมาเป็นงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลง เนื่องจากปัญหาน้ำมันเถื่อนแทบไม่มีแล้ว เพราะรัฐบาลทำโครงการ ”น้ำมันเขียว” ซึ่งให้ใช้เฉพาะเรือประมงเท่านั้น เอาขึ้นบก หรือนำมาเติมเรือประเภทอื่น จะผิดกฎหมายทันที เมื่อคืนก็มีการจับกุมได้รายหนึ่ง ลักลอบนำน้ำมันมาขายบนฝั่ง

 -การปราบปรามโจรกรรมทางน้ำ

 พล.ต.ต.มิสกวัน : ขณะนี้มีปัญหาคนว่างงาน จนนำไปสู่ปัญหาการโจรกรรมสินค้นทางน้ำที่ลำเลียงสินค้าลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เช่น ข้าว น้ำตาล ปุ๋ย เมล็ดพลาสติก ฯลฯ บางครั้งก็ร่วมมือกันเป็นขบวนการทั้งคนขนส่ง พนักงานเช็กยอด ร่วมมือกันหมด เพื่อหวังเคลมประกันสินค้าที่สูญหาย หรือ ชำรุด ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจน้ำที่ดูแลรับผิดชอบให้ดูแลสินค้าให้ครบก่อนส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ รวมถึงการปราบปรามลักลอบนำของต้องห้ามออกนอกประเทศ เช่น รถยนต์ที่ถูกขโมยมา ตัวนิ่ม แก๊สหุงต้ม ออกนอกประเทศ

 -การช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว

 พล.ต.ต.มิสกวัน : ตำรวจน้ำยังทำหน้าที่คอยช่วยแหลืออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ด้วยการดูแลตรวจสภาพโป๊ะ เรือ อุปกรณ์ชูชีพ ฯลฯ ให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย หากพบว่าเป็นอันตรายก็จะสั่งห้ามนำเรือออก และหากเรือล่ม ตำรวจน้ำต้องออกไปช่วยเหลือทันที  และรวมถึงการช่วยเหลือแรงงานที่ถูกหลอกไปทำงานในเรือประมงด้วย

-ด้านความมั่นคงภายในประเทศ

 พล.ต.ต.มิสกวัน : บ่อยครั้งที่ได้รับแจ้งเหตุคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งอาจเข้ามาเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ หรือ รับแจ้งข่าวให้ตรวจเรือลักลอบขนอาวุธสงคราม ตลอดจนการซ่องสุมประชุมลับของกลุ่มคนต้องสงสัยตามเกาะต่างๆ ตำรวจน้ำก็จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยส่งให้ทหารตรวจสอบต่อ

 ...ตลอดลุ่มน้ำที่โอบอ้อมขวานทองจรดมหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือภารกิจของตำรวจน้ำ ในฐานะรั้วทางน้ำป้องกันอาญชกรรม พล.ต.ต.มิสกวัน เอ่ยปากถึงปัญหาอาชญากรรมที่ปราบปรามยากที่สุดคือ “ปัญหายาเสพติด” เพราะเพียงแค่กำลังตำรวจน้ำเพียงอย่างเดียวมิอาจแก้ไขได้ ต้องใช้วิธีบูรณาการทั้งชาวบ้าน หน่วยงานราชการ ตชด. และทหาร มาช่วยตรึงกำลังกันอย่างแน่นหนาจึงพอจะปราบแก๊งค้ายาได้อยู่หมัด

 ส่วนข้อสงสัยเรื่องความเร็วของเรือตรวจการณ์ที่มิอาจไล่ล่าพ่อค้ายาเสพติดหรือพ่อค้าขายของเถื่อนได้นั้น ผู้บังคับการตำรวจน้ำ อมยิ้มก่อนอธิบายว่า ความเร็วของเรือตรวจการณ์อยู่ที่ 25-30 นอต อาจสู้เรือคนร้ายที่ใช้ความเร็ว 50-60 นอตไม่ได้ก็จริง แต่ด้วยหลักความจริงที่ว่า เรือไม่ได้อยู่ในทะเลตลอดเวลา อย่างไรเสียก็ต้องเข้าฝั่งวันยังค่ำ ก็จะโดนจับกุมทันที จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอาเรือตรวจการณ์ไปไล่ล่าให้ทัน แต่เพียงไล่ล่าเพื่อกดดันเท่านั้น และบางทีก็อาจประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากกองบินตำรวจมาร่วมสนับสนุนยังได้

  “การเอาเรือเร็วไปไล่ตามผู้ร้ายนั้นไม่ใช่หลักคิด เราไม่จำเป็นต้องวิ่งแข่งกัน แต่หากเป็นเรือสินค้า เรือประมง เรือตำรวจเราเร็วกว่าอยู่แล้ว แต่ประชาชนมักมองว่าเรือเร็วที่ติดเครื่องยนต์หลายๆ เครื่องนั้น เรือตรวจการณ์ตำรวจวิ่งไม่ทัน ผมมองว่าอย่างไรเรือก็วิ่งเข้าฝั่ง ผมอยู่ทำงานด้านปราบปรามทางน้ำมากว่า 10 ปี  รู้วิธีปฏิบัติงานตำรวจเป็นอย่างดี” พล.ต.ต.มิสกวัน บอก
 
 “เรือเร็วๆ หากบันทุกสินค้าผิดกฎหมายมามากๆ มันก็วิ่งไม่ออกเหมือนกัน ตอนสมัยที่ผมยังเป็นร้อยตรี เคยขับเรือตรวจการณ์ไล่ล่าเรือลักลอบขนเครื่องใช้ไฟฟ้าเถื่อน จนมันต้องโยนทีวีลงน้ำทีละเครื่องๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และวิ่งหนีเรือตำรวจให้เร็วขึ้น“ พล.ต.ต.มิสกวัน ยกตัวอย่างประสบการณ์ขับเรือยนต์ไล่ล่าพ่อค้าเถื่อน

 ส่วนความประทับใจในการปราบปรามอาชญากรรมทางน้ำนั้น…การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ๆ ยังเป็นความภาคภูมิใจอันดับต้นๆ ของผู้บังคับการตำรวจน้ำ ตลอดจนคดีโจรกรรมสินค้าทางน้ำได้สามารถติดตามจับกุมได้ยกแก๊งครบขบวนการนั่นเอง

             ข่าวรายงานพิเศษ : เรื่อง           นัทพล ทิพย์วาทีอมร : ภาพ