ลูกไม้หล่นใกล้ต้น"ปลื้ม"สุรบถ หลีกภัย

 ก็มาพร้อมกับข่าวคาวเรื่อง "กิ๊กกับดารา" คนนั้นคนนี้ เริ่มตั้งแต่ "เซเลบสาว" อย่าง "หญิงแม้น" หรือ "ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล" ที่เคยจิ๊จ๊ะกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ทั้งคู่ควงแขนออกมาปฏิเสธว่าเป็นแค่เพื่อนซี้กันเท่านั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่

 ล่าสุด "หนุ่มปลื้ม" ก็มีข่าวฉาวกับดาราสาว "พลอยเดอะกิ๊ก" หรือ พงษ์รตี เจริญ ดารานางแบบสาวสวยน่ารักถูกใจวัยโจ๋

 ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาแอ่นอกยอมรับว่าสนิทสนมกันจริง ตามคอนเซ็ปต์ดาราเป๊ะๆ

 เมื่อมีโอกาสปะหน้า "นายหัวชวน" กระจอกข่าวก็อดใจไม่ไหวที่จะถามข่าวคราวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กลายเป็นดาราไปแล้ว

 ทำเอา "นายหัวชวน" ออกอาการงงๆ เพราะไม่รู้จัก "หญิงแม้น" ว่าเป็นใคร ก่อนที่จะถามว่า คนชื่อ "แม้น" นี่ คือแม่หรือเป็นลูก เพราะเข้าใจว่าคนสมัยนี้ชื่อ "แม้น" ไม่ค่อยมีแล้ว...ฮา

 กระจอกข่าวก็ทำหน้าที่สาธยายต่อว่า ก่อนหน้านี้คบ "หญิงแม้น" ล่าสุดมาคบ "น้องพลอยเดอะกิ๊ก" ยิ่งทำเอา "นายหัวชวน" งงเข้าไปกันใหญ่ ก่อนจะบอกว่าเรื่องแฟน เป็นเรื่องของวัยรุ่น ไม่ได้คุยกัน เพราะส่วนใหญ่คุยแต่เรื่องการเรียนเท่านั้น สมัยนี้ตามไม่ค่อยทัน

 เมื่อถูกรุมถามว่า รู้จัก "พลอยเดอะกิ๊ก" มั้ย "นายหัวชวน" ทำท่าเอามือลูบท้ายทอยแกรกๆ พร้อมกับบอกว่า ไม่รู้จัก สื่อเลยเล่าต่อว่า เป็นนางเองหนังวัยรุ่น "นายหัวชวน" เลยหัวเราะทำท่าโล่งอก ก่อนที่จะถาม เป็นผู้หญิงใช่ไหม ดีนะไม่ใช่ผู้ชาย !!!

 แหมๆ เล่นแซวลูกแรงซะขนาดนี้ ระวังเดี๋ยวสาวๆ จะเข้าใจผิดนะครับท่าน!

 เพราะตอนหนุ่มๆ "นายหัวชวน" ก็มีสาวๆ เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะเหมือนกัน จนได้รับฉายาว่าเป็น "คาสโนวาเมืองตรัง"...แต่มาวันนี้ "นายหัวชวน" ต้องยกตำแหน่งนี้ให้ลูกชายไปครองแทน

 อย่างนี้เขาเรียกว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ...อิอิ

 รัฐธรรมนูญ 7หมื่นล้าน

 ๐๐๐ ในห้วงเดือนที่แล้ว นอกจาก “นักการเมือง” ในยุค “ทักษิณครองเมือง” จะต้องทยอยกันขึ้นโรงขึ้นศาลชดใช้กรรมกันแล้ว

 สนามข่าวการเมืองก็ตลบอบอวลไปด้วยฝุ่นจากเท้า “นักการเมือง” ที่วิ่งกันขาขวิด ล็อบบี้กันอุตลุดเพื่อเป้าหมายคือ "การแก้ไขรัฐธรรมนูญ"

 เสียงฝีเท้าที่ออกแรงวิ่ง ดังสนั่นลั่นรัฐสภา แว่วกันว่า “คนที่คุณก็รู้ว่าเป็นใคร” ใช้ทุกวิธีล็อบบี้ผ่านสามเส้าอำนาจ ที่ปรากฏตัวในนาม "วิป 3 ฝ่าย" ทั้ง “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน-วุฒิสภา”

 พรายกระแซะข่าวมาร่วงอยู่ที่ใต้ถุนสภา บอกให้จับตาดูแรงกระเพื่อม แรงกดดัน ที่จะบดขยี้อย่างหนักหน่วงให้แก้รัฐธรรมนูญ มาจากเงื่อนไขสำคัญคือ สิ้นปีนี้ศาลจะพิพากษาคดีอายัดเงินแม้ว 7.6 หมื่นล้านบาท

 แก้รัฐธรรมนูญ แล้วเลือกตั้งใหม่ยื้อชะตาของ “เค้กก้อนโต” เอาไว้ให้ส่งกลิ่นหอมโชยต่อไป

 แต่อย่างที่รู้กันอยู่เส้นทางแก้รัฐธรรมนูญ ไม่เคยจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะรวบ ส.ส.-ส.ว.ในสภาเข้าคอกได้สำเร็จ แต่ปัจจัยชี้ขาดกลับอยู่ข้างนอกสภาโน่น คราวก่อนจะแก้ จะแก้กันอยู่รอมร่อ พันธมิตรสีเหลืองออกโรงมาคว่ำซะถอยกรูดกันไม่เป็นท่า

 วันก่อนเห็น “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” พันธมิตรสามเสน ซุ่มโป่งอยู่หน้าห้องนักข่าว รัฐสภา สั่งเด็กให้ไปคุ้ยห้องสมุดรัฐสภา เอารายงานของกรรมการสมานฉันท์ฯ มาให้ นัยว่าจะศึกษารอจังหวะโจมตี แถมกระซิบด้วยเสียงเข้มๆ ว่า “งานนี้พันธมิตรเคลื่อนแน่”

 ภาพสงครามการเมืองวันเก่าๆ หวนมาให้คิด

 เฮ้อ! ชนวนเหตุเกิดมาจากรัฐสภาอีกแล้ว!

 เล่นการเมืองชิงอำนาจกันจนไม่คิดถึงความแตกแยกในบ้านเมือง แล้วยังอยากจะสั่งให้คนนั้นคนนี้มายกมือไหว้อีก ไม่อายกันบ้างเหรอ "ท่านผู้แทน"