ตร.ท่องเที่ยว - 191 ปิดล้อมรวบต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

               31 ต.ค. 60  เมื่อเวลา 19.30 น. ที่ กองกำกับการ 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (สนามศุภชลาศัย)  พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. บูรณาการกำลังจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 หน่วยอรินทราช 26 หน่วยรบพิเศษสยบไพรี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สน.พระโขนง กก.สส.บก.น.1. สน.สายไหม สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นทั้งในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี จำนวน 7 เป้าหมาย 41 จุด สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 22 ราย โดยแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” จำนวน 4 ราย (สัญชาติ กาน่า 1 ราย , แซมเบีย 1 ราย , ไนจีเรีย 1 ราย , ไอโวรีน 1 ราย) ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 16 ราย (สัญชาติ โซมาเลีย 14 ราย , เอธิโอเปีย 1 ราย , ไอโวรีน 1 ราย) ข้อหา “เข้ามาในราชอาณาจักรไทยพักอาศัยโดยไม่แจ้งเจ้าพนักงานภายใน 90 วัน” จำนวน 2 ราย (สัญชาติ ไอโวรีน 2 ราย)

 

 

 

               พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และอาชญากรรมที่กระทบกับความมั่นคง ส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายปลอมธนบัตร (Black Money) กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน (Romance Scam) กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต (Skimming) กลุ่มคนหลอกลวงนำเพชรปลอมมาจำหน่าย กลุ่มชาวต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำอาชญากรรมต่างๆ และยาเสพติด ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาวิธีการกระทำผิดให้มีความซับซ้อน และหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่รัฐ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้บูรณาการกำลังจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่ายเปิดยุทธการ "แบล็คอีเกิ้ล" ซึ่งได้ดำเนินการมาร่วมสองเดือนแล้ว มีการกวาดล้างคนผิวสี ที่หลบหนีเข้าเมืองและอยู่เกินกำหนดหรือโอเวอร์สเตย์ได้จำนวนหนึ่ง

 

 

 

               พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวยอมรับว่า เป็นห่วงสถานการณ์การหลบหนีเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าวหรือคนที่อยู่อาศัยเกินใบอนุญาต โดยพบว่าในจำนวนนี้ไม่น้อยมีหนังสือรับรองจาก UNHCR แต่ไม่มีพาสปอร์ต เข้าข่ายมีความผิด นโยบายของรัฐบาลต้องให้ตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่เข้าข่ายพัวพันคดีอาชญากรรม หลบหนีคดีเข้ามากบดาน และกลุ่มเข้ามาอยู่ในเมืองไทย โดยไม่มีใบอนุญาตถูกต้อง เพื่อทำการขึ้นบัญชีดำและดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป