
"เมขลาล่อแก้ว" คว้าที่1 ให้ มารีญาใส่อวดมิสยูนิเวิร์ส 2017
ประกาศผลงานชนะเลิศการออกแบบ ชุดประจำชาติประจำปี 2017
มารีญา พูลเลิศลาภ-ประภากาศ อังศุสิงห์
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2560 กองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 จัดงาน "ประกาศผลงานชนะเลิศการออกแบบ ชุดประจำชาติประจำปี 2017" สำหรับให้ น.ส.มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 สวมขึ้นอวดโฉมบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2017 ภายใต้แนวคิด “ครีเอทีฟไทย” เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของ 6 ผลงานที่โดดเด่นที่สุดจากกว่า 263 ผลงาน ได้มานำเสนอแนวคิดในการออกแบบพร้อมเสนอวัสดุในการตัดเย็บด้วยตัวเอง โดยมีคณะกรรมการตัดสิน 6 คน ประกอบด้วย อ.ปัญญา วิจินธนสาร คณะจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รศ.เอื้อเอ็นดู ดิศกุล ณ อยุธยา คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นางลลิดา ตงศิริกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายหิรัญกฤษฎิ์ ภัทรบริบูรณ์กุล นักวิชาการวัฒนธรรม เจ้าของรางวัลชนะเลิศการออกแบบชุดประจำชาติปี 2015 และ 2016 นางชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวด และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท จันทร์ 25 จำกัด โดยมี น.ส.มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ร่วมพิจารณา เกณฑ์การให้คะแนน ประกอบด้วย แนวคิดในการออกแบบและแรงบันดาลใจ สิ่งที่สื่อถึงความเป็นไทย ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นไปได้จริงในการตัดเย็บ ที่ห้องอาร์ 6 ชั้น 4 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
สำหรับผลงานที่เข้ารอบสุดท้าย จำนวน 6 ผลงาน ได้แก่ 1. “ดำเนินสะดวก” ออกแบบโดยนายศิวรุฬห์ แสนสุข อาชีพดีไซเนอร์ 2. “เมขลาล่อแก้ว” ออกแบบโดยนายประภากาศ อังศุสิงห์ อาชีพดีไซเนอร์ 3. “กินรี วอลซ์” ออกแบบโดยนายภราดร เกตุรัตน์ อาชีพดีไซเนอร์ 4. “พัพเพ็ททรี ออฟ สยาม” ออกแบบโดยนายกฤตเมธ สีถาน อาชีพครู 5. “ช้าง” ออกแบบโดยนายธีร์ ผาสุข อาชีพสไตล์ลิสต์ และ 6. “เดอะ ไทย พาวเวอร์” (สู้สุดใจ…ไทยแลนด์) ออกแบบโดยนายอัษฎกร ลาภบุญเรือง อาชีพนักศึกษา
คณะกรรมการร่วมกันจารณาอย่างเข้มข้น
หลังจากคณะกรรมการตัดสินพิจารณาอย่างเข้มข้น รอบด้าน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนประกอบด้วย แนวคิดในการออกแบบและแรงบันดาลใจ สิ่งที่สื่อถึงความเป็นไทย ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นไปได้จริงในการตัดเย็บ ผลการตัดสินเป็นเอกฉันท์ให้ชุด "เมขลาล่อแก้ว” โดย นายประภากาศ อังศุสิงห์ เจ้าของแบรนด์และดีไซเนอร์แบรนเสื้อผ้า "ฮุคส์ บาย ประภากาศ" ชนะเลิศออกแบบชุดประจำชาติ 2017 ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท และหากได้รับรางวัล ชุดประจำชาติยอดเยี่ยมในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 จะได้รับรางวัลอีก 30,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวเล่าถึงแรงบันดาลใจว่ามา จากนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง เมขลา-รามสูร เป็นเรื่องราวของไทยที่หยิบยกเรื่อง ฟ้าคะนองขึ้นมาเล่าว่า นางเมขลาหรือมณีเมขลามี ดวงแก้วประจำตัว รามสูรพอใจในดวงแก้วและความงามของนางเมขลา จึงเที่ยววิ่งไล่จับนาง เมื่อจับไม่ทัน ก็ใช้ขวานขว้าง แต่ไม่ถูก เพราะเมขลาใช้แก้วล่อ จนเป็นฟ้าแลบ แสงแก้วทำให้ตารามสูรมัวจึงขว้างขวานไม่ถูก
ประภากาศ อังศุสิงห์
ทั้งนี้ นายประภากาศ อังศุสิงห์ เจ้าของผลงานชนะเลิศเผยความรู้สึกว่า ปกติไม่ชอบส่งผลงานเข้าประกวด แต่เพราะอยากจะสนับสนุนมารีญา เนื่องจากรู้จักกันมาตั้งแต่เข้าวงการ น้องเป็นคนน่ารัก มีมารยาท อ่อนหวาน และอ่อนโยน แต่อีกมุมคือน้องมีความแข็งแรงและความเป็นผู้นำอยู่ในตัว มีมุมที่น่าประหลาดใจทั้งการตอบคำถามและวิธีการตัดสินใจเฉพาะหน้าได้ดี จึงเลือกชุดเมขลาล่อแก้ว โดยให้น้องสวมชุดของรามสูรซึ่งแสดงถึงความแข็งแรง และมีชุดเมขลาที่จะรวมอยู่ในชุดเดียวกัน เป็นการสร้างสตอรี่ที่แปลกใหม่คือมี 2 คาแร็กเตอร์ในชุดเดียวกันและมีเทคนิคค่อนข้างเยอะ โดยจะใช้ลูกแก้วที่มีไฟซ่อนไว้ข้างในชุดเมขลา ตอนพรีเซนต์จะมีระบบไฮโดรลิกทำให้ลูกแก้วเคลื่อนออกมาจากชุดมาส่องแสงอยู่ในมือเมขลา ดีใจที่ได้รางวัลชนะเลิศ จะตั้งใจและสัญญาว่าจะทำออกมาให้ดีที่สุด
ด้าน อ.ปัญญา วิจินธนสาร หนึ่งในคณะกรรมการเผยว่า หากดูการประกวดชุดประจำชาติในหลายๆ ปีที่ผ่านมา พบว่าแต่ละชาติไม่เพียงเสนอมุมของแต่ละชาติในแบบวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่มีการเสนอกรอบแนวคิดที่อยากจะรณรงค์เช่น สิ่งแวดล้อมต่างๆ หรือมีการแสดงออกถึงสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ในปีนี้ถือได้ว่ามีชุดน่าสนใจหลายชุด แต่ที่โดดเด่นและดึงดูดความสนใจคือการมีชุดสองชุดเคลื่อนไหวร่วมกัน ออกแบบโดยใช้วัฒนธรรมและอิเลคทรอนิกส์เข้ามาผสมผสานกันได้อย่างดี รวมถึงการแสดงบนเวที ที่ทำให้ไม่หยุดนิ่ง เป็นมิติใหม่ นางงามมีความทะมัดทะแมง ไม่ได้มีแค่ลุคเดียว จึงได้เลือกให้ชุดนี้ชนะ ซึ่งหลังจากนี้จะช่วยส่งเสริมให้ดีไซเนอร์ไทยนำสิ่งไทยๆมาออกแบบมากขึ้น ทำให้วงการออกแบบไทยเติบโตสู่แฟชั่นโลกโดยการใช้สิ่งไทยๆ
ขณะที่ น.ส.มารีญา เผยถึงผลงานที่เข้ารอบ 6 ชุดสุดท้ายมีความสวย มีความพร้อมและความเป็นไทยทุกชุด แต่ชุดเมขลาล่อแก้ว ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสามารถสื่อสารความแข็งแรงและความเป็นไทยได้มากที่สุด มีความน่าสนใจตรงการนำเสนอที่มีสองชุดบนเวทีซึ่งไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ยังเป็นการผสมผสานแฟชั่นและนวัตกรรมได้อย่างลงตัว สามารถสื่อสารให้นานาชาติเห็นว่า ประเทศไทยมีอะไรบ้าง มีเรื่องเล่าที่สามารถเล่าให้ชาวต่างชาติให้ฟัง ซึ่งการนำเสนอชุดดังกล่าวบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ตัวเองคิดว่าจะต้องใช้ทั้งความแข็งแรง ความเท่ กระฉับกระเฉง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ตัวเองมีอยู่แล้ว แต่ต้องไปศึกษาการแสดงโขนเพิ่มเติมเพื่อให้ท่าทางออกมาคมชัดมากขึ้น ดีใจมากเชื่อมั่นว่าเมื่อชุดทำเสร็จออกมาแล้ว ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องจับตามอง