ข่าว

ถึงคิวลับ ลวง พราง"เน็ตประชารัฐ"

ถึงคิวลับ ลวง พราง"เน็ตประชารัฐ"

05 ก.ย. 2560

ถึงคิวลับ ลวง พราง"เน็ตประชารัฐ"

 
       ทำเอาประชาชนคนไทยเสียฟิลลิ่งไปตามๆกัน กับโครงการ “เน็ตประชารัฐ” รัฐบาลคสช.ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายมั่นปั้นมือเป็นของขวัญคนไทยในปีใหม่ หวังให้ประชาชนเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตในทุกตำบลทั่วประเทศในราคาถูก กรุยทางสู่นโยบาย ”ไทยแลนด์4.0”
        กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เองก็ติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไวไฟแล้วเสร็จไปกว่า 12,000 หมู่บ้าน/ชุมชน เริ่มเปิดทดลองให้บริการฟรีไวไฟกับประชาชนนำร่องไปแล้ว แต่ ณ วันนี้ผู้คนก็ยังไม่สามารถจะเชื่อมต่อเน็ตประชารัฐเข้าไปยังครัวเรือนได้  จะใช้แต่ละครั้งก็ต้องนั่งมอเตอร์ไซด์วิ่งควานหาจุดบริการ
         จึงได้แต่หาวเรอรอเมื่อไหร่หนอ “เน็ตประชารัฐ”ของนายกฯตู่จะมาเสียที
        จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ ติดตั้งเสร็จไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว แต่คำตอบที่ได้รับจากกระทรวงดีอีว่า “รอไปก่อน...หรือขอเวลาอีกไม่นาน  รอให้บริษัททีโอทีและกระทรวงดีอีเคาะราคาเน็ตประชารัฐในชั้นสุดท้าย”  
         ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผล(คตป.)กระทรวงดีอีออกมายอมรับเองว่า ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าโครงการเน็ตประชารัฐและถูกชาวบ้านร้านรวงถามไถ่เมื่อไหร่จะต่อเชื่อมเน็ตประชารัฐเข้าครัวเรือนตามนโยบายรัฐได้เสียที
         เจอคำถามอย่างนี้ คตป.ก็ได้แต่อ้ำอึ้ง ให้คำตอบที่ชัดเจนอะไรไม่ได้ ข่าวว่านายกฯตู่ถึงกับออกอาการฟิวส์ขาด สั่งให้กระทรวงดีอีเร่งรัดกำหนดราคาเน็ตประชารัฐและให้บริการประชาชนก่อนที่ผลงานชิ้นโบว์แดง จะงานเข้ากลายเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาแทน!
        นัยว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังที่ทำให้เน็ตประชารัฐเกิดอาการสำลักสะดุดตอ ทำท่าจะต่อไม่ติดนั้น เพราะเกิดรายการงัดข้อระหว่างกระทรวงดีอี-และ กสทช. แถมยังมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มั่วตุ้มลงมาคลุกฝุ่นเอาด้วยอีก
          หากย้อนหลังตามมติ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม2559 ที่มอบหมายให้ดีอี ดำเนินการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุม 24,700 หมู่บ้านใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการในหมู่บ้านที่เหลือเพิ่มเติมอีก 15,723 หมู่บ้าน โดยใช้งบประมาณจากกองทุน USO  ขณะเดียวกันยังมอบหมายให้ทีโอทีเร่งขยายโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น
         ที่มาของมติ ครม.ข้างต้น ก็เพราะในส่วนของบริษัททีโอทีนั้นได้ชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมเองว่า มีศักยภาพและขีดความสามารถที่จะดำเนินโครงการนี้เพียงแค่นี้ กระทรวงดีอีได้มอบหมายให้ บริษัททีโอทีดำเนินการติดตั้งโครงการเน็ตประชารัฐที่ว่าให้ทั้งหมดภายใต้วงเงิน 15,000 ล้านบาท  
           แต่เมื่อ กสทช.สำรวจพื้นที่ชายขอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่อยู่นอกเหนือพื้นที่ให้บริการของดีอีและทีโอทีแล้วพบว่า ยังีจุดบอดอันเป็นพื้นที่ในโซน C+ อีกกว่า 3,920 หมู่บ้าน กสทช.จึงผลักดันโครงการเน็ตชายขอบออกมาดำเนินการก่อนโครงการเน็ตประชารัฐ  โดยได้จัดประมูลไปตั้งต้นเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา
            ผลการประมูลที่ได้นั้นทำเอาทุกฝ่ายถึงกับอึ้ง เพราะบริษัททีโอทีที่บอกงานล้นมือ ไม่สามารถจะดำเนินโครงการเน็ตประชารัฐไปได้มากกว่าที่ได้รับการประเคนมาจากดีอีนั้น กลับกระโจนเข้าร่วมประมูลเน็ตชายขอบของกสทช.ด้วย แถมยังคว้าสัญญาได้ถึง 3 โซนจาก 8 โซนที่ประมูล ในราคาที่ต่ำกว่าที่บริษัทเอกชนเสนอซะอีก 
          ก่อนทุกฝ่ายจะมาถึงบางอ้อเน็ตชายขอบของ กสทช.ที่เปิดประมูล 3,920 หมู่บ้านภายใต้วงเงิน 13,600 ล้านบาทเศษที่มีใครต่อใครตีโพยตีพายว่าแพงระเบิดระเบ้อถึงหมู่บ้านละ 3.3 ล้านบาทนั้น กลับสามารถกำหนดราคาให้บริการแก่ประชาชนในราคาต่ำติดดินเพียง 100-150-200 บาท
            ขณะที่เน็ตประชารัฐที่ดีอีและทีโอที ตีปี๊บว่ามีต้นทุนติดตั้งดำเนินการต่ำกว่า กสทช.เป็นเท่าตัว เพราะดำเนินโครงการติดตั้งมากถึง 24,700 หมู่บ้านภายใต้วงเงินดำเนินการแค่ 15,000 ล้านบาทเศษ แต่สนนราคาค่าบริการกลับพุ่งปรี้ดไปถึง 399-599 บาท ทำเอากระทรวงดีอีและทีโอทีไปไม่เป็น ไม่รู้จะบากหน้าไปอรรถาธิบายนายกลุงตู่ได้อย่างไร
       วันดีคืนดี สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ยังมีหนังสือมายัง กสทช.ออกมาเบรกโครงการเน็ตชายขอบโครงการนี้ที่กำลังดีเดย์เตรียมจะให้บริการในเดือนตุลาคม-พฤศิจกายนนี้ ด้วยข้อหาที่ว่าดำเนินการขัดมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) อาทิ มีการประเคนโครงข่ายหลัก Backbone Networkไปให้เอกชนให้บริการและบริหารแทนที่รัฐจะดำเนินการเอง  และต้องการให้ กสทช.โอนโครงการติดตั้งเน็ตประชารัฐที่จะดำเนินการอีก 15,700 หมู่บ้านไปให้ดีอีและทีโอทีดำเนินการแทน 
       มันจะเป็นไปได้อย่างไร ค่าติดตั้งโครงข่ายอินเทอร็เน็ตไวไฟที่ดีอี ทีโอทีลงทุนเฉพาะโครงข่ายปลายสายอะไรที่ว่า แถมมีต้นทุนที่ถูกกว่าเพราะต้นทุนแฝงที่เป็น Backbone Network นั้นรัฐและดีอีได้ลงทุนไปหมดแล้ว แต่ราคาเน็ตประชารัฐเจ้ากรรมแทนที่มันจะต่ำติดดิน ราคาที่เตรียมเคาะกันมากลับพุ่งปรี้ดสูงกว่าที่ กสทช.กำหนดไว้เสียอีก