ทายาทแข้งดังรอวันแจ้งเกิด | คมชัดลึก

การคว้าตัว“โจวานนี ซิเมโอเน” กองหน้าอาร์เจนไตน์ และเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ดีเอโก ซิเมโอเน” กุนซือคนดังของแอตเลติโก มาดริด ของฟิออเรนตินาจากเจนัว เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน เป็นข่าวที่น่าสนใจไม่น้อยในวงการลูกหนัง

เพราะในทีม “ม่วงมหากาฬ” ก็มีลูกชายของอดีตแข้งดังทีมอยู่ก่อนแล้วสองคนนั่นคือ “ยานิส ฮาจี” ลูกชายของจอร์จี ฮาจี อดีตนักเตะระดับตำนานของทีมชาติโรมาเนีย และ “เฟเดริโก เคียซา” ลูกชายของ เอนริโก้ เคียซา อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอิตาลี

โดยช่วง 3 ปีที่ผานมาวงการลูกหนังโลกได้เห็นบรรดาทายาทของแข้งดังเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วเริ่มเข้ามาสำแดงฝีเท้าให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งหลายคนก็พยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า มีดีไม่แพ้บิดา

 

จัสติน ไคลเวิร์ต

ลูกชายของ “แพทริค ไคลเวิร์ต” อดีตหัวหอกทีมชาติเนเธอร์แลนด์ จัสติน วัย 18 ปี เป็นเด็กสร้างของอะคาเดมี่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เช่นเดียวกับพ่อของเขาที่สร้างชื่อมากับทีมดังกล่าว

จัสติน ไคลเวิร์ต ในตำแหน่งผู้เล่นตัวริมเส้น กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะหนึ่งในดาวรุ่งที่ฟอร์มแรงที่สุดในลีกยุโรป ฤดูกาล 2016-17 ที่ผ่านมาได้ลงเล่นชุดใหญ่ของอาแจ็กซ์เป็นครั้งแรก ทำไป 2 ประตูจาก 22 นัด สามารถพาทีมเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก ก่อนจะพ่ายแพ้ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 และคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรไปครอง

 

คริสเตียน มัลดินี

อดีตตำนานหมายเลข 3 ของเอซี มิลาน อย่างเปาโล มัลดินี ทิ้งเลือดเนิ้อเชื้อไขเอาไว้เพื่อสืบสานตำนานยอดนักเตะในถิ่นซาน ซิโร่ เป็นรุ่นที่สาม ซึ่งเจ้าหนูคริสเตียน มัลดินี ลูกชายคนโตของเปาโล ก็หวังโอกาสเดินตามรอยพ่อและปู่(เชซาเร มัลดินี) ให้กับทีมศาจแดงดำ

แต่เส้นทางของคริสเตียน ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยหลังจากวัยผ่านพ้นชุดเยาวชนก็ถูกปล่อยให้กับเรจจิน่าเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เรจจิน่าก็ยังปล่อยยืมตัวให้กับทีมในมอลตาอีกต่อหนึ่ง ก่อนที่ในฤดูกาลนี้จะถูกปล่อยตัวแบบถาวรไปอยู่กับโปร เซสโต ทีมระดับเซเรีย ดี

 

เลรอย ซาเน่

แฟนฟุตบอลคงจะรู้จักมากที่สุดในรายชื่อที่ยกตัวอย่างมานี้ ความสามารถของซาเน่ของไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ แต่ก็อาจมีหลายคนที่ไม่ทราบว่าเขาคือลูกชายของ ซูเลย์มาน ซาเน อดีตดาวยิงทีมชาติเซเนกัล ที่เคยค้าแข้งในเวทีบุนเดสลีกามาอย่างโชกโชน ในช่วงทศวรรษที่ 80-90 กับ ไฟร์บวร์ก และ เนิร์นแบร์ก

แต่ เลรอย น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการเป็นลูกชายยอดนักเตะที่ก้าวไปได้เหนือกว่าพ่อของตนเอง เลรอย ซาเน่ ฉายแสงตั้งแต่เล่นในชาลเก 04 และการที่เกิดที่ประเทศเยอรมนีทำให้เจ้าตัวเลือกเล่นให้กับทีมอินทรีเหล็ก ทำให้ยิ่งส่งเสริมให้ทั่วโลกได้เห็นฝีเท้ามากขึ้น

จนเมื่อฤดูกาล 2016-17 ที่ผ่านมา เจ้าตัวย้ายไปร่วมทีมแมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ (1,538 ล้านบาท) แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักแต่ในฤดูกาลนี้ก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะช่วยทีมคว้าโทรฟี่

 

มัทเธอุส โอลิเวรา

นี่คือลูกชายของ “เบเบโต” ตำนานทีมชาติบราซิลชุดฟุตบอลโลกปี 1994 และมัทเธอุสคือที่มาของท่าดีใจกล่อมลูกอันโด่งดังในศึกฟุตบอลโลกครั้งนั้น ซึ่งเป็นเกมที่ เบเบโต ยิงประตูช่วยทีมชาติบราซิลเอาชนะเนเธอร์แลนด์ 3-2 ในรอบ 8 ทีม ก่อนผ่านเข้าไปคว้าแชมป์โลก

ปัจจุบัน มัทเธอุส อายุ 23 ปี และโชว์ฟอร์มไดดีกับ เอสโตริล ในลีกโปรตุเกส จนได้ร่วมทัพกับทีมยักษ์ใหญ่ของลีกฝอยทองอย่าง สปอร์ติง ลิสบอน ในฤดูกาลล่าสุด โดยมีค่าฉีกสัญญาของนักเตะไว้สูงถึง 60 ล้านยูโร (2,344 ล้านบาท) ซึ่งวงการฟุตบอลก็คาดหวังว่ามัทเธอุส จะเดินตามรอยเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนพ่อ

 

อวน จอร์เกฟฟ์

จอร์เกฟฟ์ เป็นตัวอย่างของตระกูลนักฟุตบอล ฌ็อง จอร์เกฟฟ์ เคยเป็นนักเตะของทีมดังอย่างโอลิมปิก ลียง, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ โอลิมปิก มาร์กเซย ในช่วงปี 1958-1974 ติดทีมชาติฝรั่งเศสถึง 48 ครั้ง จากนั้นลูกชายของเขาคือ ยูริ จอร์เกฟฟ์ ก็เป็นนักฟุตบอลเช่นกัน อีกทั้งเป็นหนึ่งในตำนานของทีมชาติฝรั่งเศส ติดทีมชาติไป 82 ครั้ง ได้ทั้งแชมป์โลกและแชมป์ยุโรป ผ่านประสบการณ์เล่นกับอินเตอร์ มิลาน, เปแอสเช และโมนาโก

ซึ่งตอนนี้ อวน ในวัย 19 ปี ก็พร้อมเดิมตามรอยคุณปู่และคุณพ่อแล้ว โดยปัจจุบัน เขาเป็นเด็กปั้นของสโมสร มงเปลลิเยร์ ในฝรั่งเศส และถูกคาดการณ์กันว่าจะได้ติดทีมชาติในอนาคตเช่นกัน

 

การที่เป็นทายาทอดีตนักเตะระดับตำนานทำให้ได้เปรียบเด็กคนอื่นๆพอสมควรในแง่ของต้นทุน โอกาส ความเป็นที่รู้จัก แต่ก็มาพร้อมกับความคาดหวังที่สูงจนกลายเป็นแรงกดดันตามไปด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าในโลกลูกหนังมีทายาทที่ประสบความสำเร็จเหมือนกับผู้เป็นพ่อเคยทำน้อยมาก