ข่าว

ชาวแมนฯซิตี้รุมจวก'ทักษิณ'บริหารแย่

ชาวแมนฯซิตี้รุมจวก'ทักษิณ'บริหารแย่

19 ก.ย. 2552

"ทักษิณ" งานเข้าปธ.บริหารแมนฯ ซิตี้รุมสวดยับ เปรียบยุค "แม้ว" บริหารเหมือนอยู่ในกรงสิงโต ไร้เงินซื้อนักเตะ อนาถต้องไปยืมเงิน ด้าน "สตีเฟน ไอร์แลนด์" อัดเป็นความบ้าที่มีบุคคลเช่นนี้เป็นเจ้าของสโมสร

งานเข้าอีกครั้งสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรีคนดัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังจาก 2 ปีก่อนหน้านี้ได้เคยสร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนจะตัดสินใจขายทิ้งให้กลุ่มทุน "อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป" โดยอ้างเหตุผลเพื่อความก้าวหน้าของสโมสร แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกโจมตีอย่างหนัก เมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ดาหน้าออกมารุมประณามการบริหารงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงที่กุมบังเหียนสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างหนัก

 เมื่อวันที่ 19 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานอ้างหนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษ ที่สัมภาษณ์ นายแกรี คุก ประธานบริหารแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เกี่ยวกับการบริหารงานในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยนายแกรี คุก โทษอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณว่า สร้างความล้มเหลวในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่ได้ศึกษาวิจัย พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างดีพอ

 "บรรยากาศในสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมือนอยู่ในกรงสิงโต แต่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในหีบใส่กุญแจล็อก ไม่สามารถนำมาจับจ่ายซื้อนักเตะ และถึงกับต้องไปขอยืมเงิน 2 ล้านปอนด์จากนายจอห์น วอร์เดิล อดีตประธานสโมสรคนเก่ามาใช้จ่าย" นายแกรี คุก กล่าว

 ขณะที่ มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่า การที่ย้ายออกจากทีมแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เพื่อมารับงานคุมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกิดจากการคาดเดาในด้านดีมากเกินไป ซึ่งในขณะนั้นเชื่อว่า ทั้งคนและสิ่งอำนวยความสะดวกของทีมเรือใบสีฟ้าจะสุดยอด แต่ในความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหมายไว้แต่อย่างใด

 ด้านสตีเฟน ไอร์แลนด์ นักเตะในตำแหน่งกองกลางของทีมเรือใบสีฟ้าที่กำลังโชว์ผลงานได้อย่างสุดยอด กล่าวยืนยันว่า สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานสโมสรอยู่นั้น สโมสรขาดแคลนเงินอย่างมาก ทำให้ทีมไม่ประสบความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก พร้อมย้ำว่า "เป็นความบ้าที่มีบุคคลเช่นนี้เป็นเจ้าของสโมสร"

 เช่นเดียวกัน นายคัลดูน อัล มูบารัค ประธานสโมสรคนปัจจุบัน กล่าวว่า สถานการณ์ของทีมช่วงที่ ชีค มานซูร์ บิน ซาเอด อัล นาห์ยาน เข้ารับช่วงมรดกตกทอดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง โดยหลังจากเข้ามาซื้อหุ้นสโมสรได้ดำเนินการปรับปรุงขั้นพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น การปรับปรุงโรงยิมของสโมสรให้ดีขึ้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตัดสินใจซื้อหุ้นสโมสรแมนฯ ซิตี้ เริ่มขึ้นก่อนพรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาลแข่งขัน 2007-2008 โดยสโมสรแมนฯ ซิตี้ ตัดสินใจขายหุ้น 54 ล้านหุ้นให้แก่ "ยูเคเอสไอแอล" ยูเค สปอร์ต อินเวสเมนท์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทในความควบคุมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จาก 75 เปอร์เซ็นต์ ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนกรกฎาคม 2007 เป็นจำนวนเงินรวม 81.6 ล้านปอนด์ (4,488 ล้านบาท)

 นอกจากจะเป็นเจ้าของทีม พ.ต.ท.ทักษิณ ยังนั่งเก้าอี้ประธานสโมสรด้วยตัวเอง และให้ น.ส.พินทองทา กับ นายพานทองแท้ ลูกสาวกับลูกชาย เข้ามาอยู่ในคณะกรรมการบริหาร ส่งผลให้ จอห์น วอร์เดิล ประธานคนเก่า ที่ถอยลงมาอยู่ในบอร์ดบริหาร ต้องลาออกหนึ่งปีหลังจากนั้น

 ขณะที่ แกรี คุก หนึ่งในคณะบอร์ด ได้ถูกเลื่อนขึ้นมาเป็น "ซีอีโอ" แต่ในปีแรกที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่กับแมนฯ ซิตี้ ต้องขาดทุนหลังหักภาษีเป็นจำนวน 11 ล้านปอนด์ (605 ล้านบาท) และจากการถูกยึดทรัพย์ในประเทศไทย ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องขายทีมให้แก่ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ในเดือนกันยายน 2008

 ส่วนผลงานบริหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดึง สเวน โกรัน อีริคส์สัน อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เข้ามาคุมทีม และประกาศว่า หาก "สเวนนิส" นำทีมอยู่ใน 10 อันดับแรกสำเร็จ ก็น่าพอใจ ทว่าจากการเริ่มต้นได้ดีด้วยการอยู่ใน 4 อันดับแรก ทำให้มีลุ้นพื้นที่สโมสรยุโรป ทว่ามาแผ่วในช่วงปลายฤดูกาล โดยเฉพาะเกมพ่าย มิดเดิลสโบรช์ 1-8

 อย่างไรก็ตาม แม้แมนฯ ซิตี้ จะจบฤดูกาลด้วยอันดับ 9 พร้อมได้สิทธิเล่นถ้วยยูฟ่า คัพ ในฐานะทีมแฟร์เพลย์ อวอร์ด ตามเป้าหมาย ทว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปลดกุนซือสวีดิช ออกจากตำแหน่ง ทำให้ผู้คนในย่านอีสต์แลนด์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ถึงกับเขียนป้ายไล่ทักษิณ ว่า "สเวน อยู่ ทักษิณ ออก"