ข่าว

ปลูกถ่ายฟันช่วยหญิงตาบอดเห็นแสงสว่าง

ปลูกถ่ายฟันช่วยหญิงตาบอดเห็นแสงสว่าง

17 ก.ย. 2552

ไมอามี-แพทย์มะกันเจ๋ง นำฟันมาปลูกถ่ายลงในดวงตาคนไข้เพื่อรักษาอาการตาบอดมานานร่วมสิบปีเป็นผลสำเร็จ

เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (17 ก.ย.) ว่าคณะแพทย์จากสถาบันบาสคอม ปาล์มเมอร์ อาย ของมหาวิทยาลัยไมอามี ประเทศสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายฟันลงในดวงตาของนางแชร์รอน "เคย์" ทอร์นตัน หญิงชราวัย 60 ปีในรัฐมิสซิสซิปปีที่ตาบอดมานานเกือบสิบปี ให้สามารถกลับมามองเห็นแสงสว่างได้อีกครั้ง

 นางทอร์นตันตาบอดมาตั้งแต่ปี 2543 อันเป็นผลพวงของโรคสตีเฟนส์ จอห์นสัน โรคแพ้ยาชนิดรุนแรงที่ทำให้กระจกตาของหญิงชราเป็นแผล

 นพ.วิคเตอร์ เปเรซ ศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดให้นางทอร์นตัน กล่าวว่า สำหรับในเคสของหญิงชราผู้นี้ ซึ่งร่างกายไม่ยอมรับการปลูกถ่ายดวงตา หรือกระจกตาเทียม คณะแพทย์จึงต้องรักษาด้วยวิธีการฝังฟันของคนไข้เองลงไปในดวงตาของหญิงชรา เพื่อใช้เป็นฐานยึดติดเลนส์พลาสติกชิ้นเล็กๆ เอาไว้ ทำให้คนไข้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง

 ด้านนางทอร์นตันกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า นับเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง พร้อมกับบอกให้ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้างถ้าต้องถูกปิดตาเอาไว้แค่หนึ่งสัปดาห์ แล้วคุณจะรู้ว่าการได้กลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่งนั้นมหัศจรรย์แค่ไหน

 วิธีการรักษาแบบนี้ถูกบุกเบิกขึ้นในอิตาลี แต่นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำมาใช้ในสหรัฐ โดยคณะแพทย์จะถอดเขี้ยวของนางทอร์นตัน รวมถึงกระดูกรอบๆ เขี้ยวซี่นี้ออกมา แล้วนำมาฝนให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ ก่อนจะเจาะรูในฟันซี่ดังกล่าวเพื่อใส่เลนส์ที่ใช้ในการมองเห็นเข้าไป

 ฟันซี่ดังกล่าว และเลนส์เทียมจะถูกนำไปปลูกถ่ายเข้าไปไว้ใต้ผิวหนังคนไข้บริเวณแก้ม หรือบ่าเป็นเวลานาน 2 เดือนก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของคนไข้จะไม่ปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมนี้ จากนั้น แพทย์จึงจะนำฟัน และเลนส์มาปลูกถ่ายลงในดวงตาของคนไข้ที่ผ่านกระบวนการเตรียมเบ้าตามาแล้วหลายครั้งด้วยความระมัดระวัง

 ภายหลังจากที่ผ่านการผ่าตัดมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง คณะแพทย์เพิ่งจะนำผ้าพันแผลออกจากดวงตาของนางทอร์นตันออกเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งก็ปรากฏว่านางทอร์นตันสามารถจดจำสิ่งของต่างๆ รวมถึงใบหน้าของคนที่รู้จักภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เปิดตา และภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนั้น หญิงชราก็สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ได้อีกครั้ง

 "ฉันกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้เห็นเหลนคนที่ 7 ซึ่งเป็นคนเล็กสุดเป็นครั้งแรก" นางทอร์นตันกล่าวด้วยความยินดี