นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากข้อมูลแปลงติดตามสถานการณ์ศัตรูอ้อยพบการระบาดโรคใบขาวอ้อย ในเขตภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ อุดรธานี สกลนคร และจังหวัดขอนแก่น ดังนั้น เกษตรกรควรหมั่นสำรวจแปลงอ้อยอย่างสม่ำเสมอ หากเกษตรกรตรวจพบการระบาดให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อรีบกำจัดอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้การระบาดแพร่ขยายเป็นวงกว้างและทำให้ผลผลิตของเกษตรกรลดลง 30-40 เปอร์เซ็นต์ และในปีถัดไปอาจจะเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ ทำให้เกษตรกรไม่สามารถไว้ตอหรือเก็บท่อนพันธุ์ไว้ทำพันธุ์ต่อได้
โรคใบขาวอ้อยสาเหตุเกิดมาจาก เชื้อไฟโตพลาสมา ลักษณะอาการใบขาวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับอ้อยทุกระยะการเจริญเติบโต อ้อยที่เป็นโรคจะแสดงอาการผิดปกติได้ตั้งแต่เริ่มงอกไปจนกระทั่งเก็บเกี่ยว โดยอาการจะปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนในระยะกล้าอ้อยจะแตกกอฝอยมีหน่อเล็กๆ ที่มีใบสีขาวจำนวนมาก คล้ายกอหญ้า หน่อไม่เจริญเป็นลำ หากอาการโรครุนแรงอ้อยจะแห้งตายทั้งกอในที่สุด หากหน่ออ้อยในกอเจริญเป็นลำได้ ลำอ้อยที่ได้จะไม่สมบูรณ์ อาจมีใบขาวที่ปลายยอด หรือมีหน่อขาวเล็กๆ งอกจากตาข้างของลำ บางครั้งอาการของโรคจะมีลักษณะแฝง พบเสมอในอ้อยที่ปลูกปีแรก
โดยอ้อยที่เป็นโรคจะเจริญเติบโตเป็นลำ มีใบสีเขียวคล้ายอ้อยปกติ มีเพียงหน่อขาวเล็กๆ ที่โคนกอ แต่อาการโรคจะปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนในอ้อยตอในระยะเวลาต่อมา ซึ่งเมื่อนำอ้อยที่มีอาการแฝงคล้ายอ้อยปกติดังกล่าวไปปลูกต่อก็จะทำให้โรคระบาดต่อไปได้ อย่างกว้างขวางแปลงอ้อยที่ปลูกในช่วงหน้าฝนจะพบอาการโรคระบาดรุนแรง เนื่องจากจะพบแมลงพาหะมากในฤดูฝน
ระหว่างปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และพบน้อยในฤดูแล้ง ระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งการแพร่ระบาด ติดไปกับท่อนพันธุ์ที่มีเชื้อแฝงเป็นสาเหตุหลักและ เพลี้ยจักจั่นสีน้ำตาลเป็นแมลงพาหะ 2ชนิด คือ Matsumuratettix hiroglyphicus ,Cicadulina bipunctella
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวิธีการป้องกันกำจัดโรคใบขาวอ้อย ขอให้เกษตรกรผู้ปลุกอ้อย ดำเนินการดังนี้ 1) เตรียมแปลงพันธุ์ที่จะมาขยายปลูกโดยใช้พันธุ์ที่ทนทานและแช่ท่อนพันธุ์ในน้ำร้อน 50 องศาเซลเซียส นาน 2 ชั่วโมง หรือ 52 องศาเซลเซียส นานครึ่งชั่วโมงก่อนปลูก 2) ปลูกอ้อยข้ามแล้งเพื่อหลีกเลี่ยงแมลงพาหะซึ่งมีมากในฤดูฝน โดยปลูกในเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคมในภาคตะวันตก
3) ในกรณีพบการระบาดมากให้ไถทิ้งทั้งแปลง แล้วปลูกพืชตระกูลถั่วหมุนเวียน ก่อนปลูกอ้อยรอบใหม่ เพื่อตัดวงจรของโรคและแมลงพาหะ เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่มีอ้อยพันธุ์ต้านทาน 4) ขุดทำลายกออ้อยที่เป็นโรคออกจากแปลงแล้วนำไปเผาทำลายทิ้ง หรืออาจใช้สารกำจัดวัชพืชพ่นต้นที่เป็นโรค 5) กำจัดวัชพืชรอบ ๆ แปลง ไปพร้อมกับการทำลายกอเป็นโรค เพื่อทำลายแหล่งอาศัยของแมลงพาหะนำโรค 6) ให้ความร่วมมือกันกำจัดโรคใบขาวอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูการผลิต และตลอดไปจนกว่าโรคใบขาวจะหมดไป