ฟ้องโคเรียคิง 1,650 ล้านบาท

         30 มิ.ย.60 นางอรกัลยา พุ่มพึ่ง และนางกัลยทรรศน์  ติ้งหวัง เป็นตัวแทนผู้บริโภคที่ซื้อกระทะโคเรียคิง เดินทางมา ยื่นฟ้อง บริษัท วิซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกระทะโคเรียคิง ต่อแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลแพ่ง กรณีบริษัทส่งมอบสินค้าที่คุณสมบัติไม่ตรงตามคำโฆษณา โดยการยื่นครั้งนี้ ทั้งสองได้ยื่นคำขอดำเนินคดีแบบกลุ่มตัวแทนผู้เสียหายด้วยเรียกค่าเสียหาย 9,653,400 บาทสำหรับผู้เสียหายรวม 74 ราย ซึ่งหากศาลอนุญาตให้ฟ้องคดีแบบกลุ่มแทนผู้บริโภคที่ใช้กระทะโคเรียคิงทุกคน ก็ขอให้ชดใช้ค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 1,650 ล้านบาทสำหรับผู้บริโภคทุกคนที่ซื้อกระทะโคเรียคิง

         ทั้งนี้ศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ผบ.3006/2560 นัดไต่สวนคำร้องคดีแบบกลุ่ม วันที่ 25 ก.ย.นี้ เวลา 13.00 น. โดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภคครั้งสำคัญ จึงเป็นการใช้กฎหมายเพื่อสร้างบรรทัดฐานการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งชัดเจนว่าเป็นปัญหาการขายสินค้าหรือส่งมอบสินค้าที่ไม่เป็นไปตามการโฆษณาของบริษัทที่ขายกระทะโคเรียคิง โดยคาดน่าจะมีผู้บริโภคที่เสียหายมากกว่า 500,000 คน ซึ่งตัวเลขการนำเข้ากระทะมาจำหน่ายไม่น้อยกว่า 1,030,000 ใบ และงบโฆษณาอันดับหนึ่งที่มากถึง 1,651 ล้านบาทในปี 2559
           แต่เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อกระทะโคเรียคิงแต่ละรายไม่สูงมากนัก ผู้บริโภคจึงไม่คุ้มที่จะดำเนินคดีด้วยตนเอง ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภคและมีประสิทธิภาพในการดำเนินคดีมากกว่าการฟ้องคดีแต่ละรายของผู้บริโภค มูลนิธิฯ จึงสนับสนุนการดำเนินการฟ้องคดีแบบกลุ่ม ขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่าบริษัทฯที่จำหน่ายกระทะโคเรียคิงจะปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงของ สคบ.เพียงใด ซึ่งหากชนะคดีจะสามารถคุ้มครองทุกคนที่ซื้อกระทะโคเรียคิงได้
           ต่อข้อถามที่ว่าจะฟ้องแพ่งกับพิธีกรที่โฆษณาขายกระทะโคเรียคิงหรือไม่  น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กล่าวว่า เราไม่ได้ฟ้องพิธีกรแต่เราฟ้องบริษัทที่จำหน่ายกระทะโคเรียคิง ให้คืนเงินกับประชาชนผู้บริโภค เพราะมองว่าเป็นการขายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามที่โฆษณา
         นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความอาสามูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เรื่องนี้ สคบ.มีมติว่า บริษัทดังกล่าวโฆษณาผิดกฎหมาย และสั่งเปรียบเทียบปรับสูงสุด 50,000 บาทเป็นความผิด 2 กรรม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 100,000 บาท พร้อมให้โฆษณาแก้ไขและให้คืนเงินเฉพาะคนที่ได้ไปร้องเรียนแล้ว แต่ก็ไม่ได้คืนเงินทุกคนที่ซื้อสินค้า ซึ่งการมาฟ้องต่อแผนกคดีคุ้มครองผู้บริโภคและขอดำเนินคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มนี้ จะช่วยรักษาสิทธิของผู้บริโภคทุกราย ที่ซื้อสินค้า เพราะถ้าศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้บริโภคทุกคนก็จะได้รับการคุ้มครองเช่นเดียวกันหมด
           นายสิษฐวัศ ภาคินสกุลพัฒน์ ทนายความผู้รับผิดชอบคดี กล่าวว่า การจำหน่ายสินค้านั้นไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์คุณสมบัติสินค้าของบริษัทแล้วจากนักวิชาการและหน่วยงานราชการระบุว่าไม่ได้เป็นไปตามที่มีการโฆษณาขายสินค้า เป็นการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย โดยการร้องแบ่งกลุ่มผู้บริโภคเป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้ใช้กระทะรุ่นไดมอนด์ และผู้ใช้กระทะรุ่นโกลด์ โดยให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 9,653,400 บาท ให้กับผู้บริโภคจำนวน 74 ราย และไม่น้อยกว่า 1,650 ล้านบาท กับผู้บริโภคทุกคนที่ซื้อกระทะโคเรียคิง   
           ขณะที่นางอรกัลยา พุ่มพึ่ง ชาวจ.ปทุมธานี โจทก์ที่ 1 กล่าวว่า ได้ซื้อกระทะยี่ห้อโคเรียคิง รุ่นไดมอนด์ ในราคา 3,900 บาท ที่ตัดสินใจซื้อเพราะชื่นชมพิธีกรที่พูดถึงคุณสมบัติของกระทะว่ามีคุณสมบัติพิเศษและยังมีของแถมอีกมากมาย ที่สำคัญในโฆษณาบอกว่ากระทะโคเรียคิงไม่ต้องใช้น้ำมันไม่ติดกระทะ แต่พอนำไปใช้ทอดปลา ทำอาหารจริงปรากฏว่าต้องใช้น้ำมันอยู่ดี ไม่เหมือนกับที่บอกในโฆษณา ดังนั้นจึงเห็นว่าถูกเอาเปรียบก็ต้องรักษาสิทธิ และอยากรักษาสิทธิให้ผู้บริโภคคนอื่นๆด้วย
           นางกัลยทรรศน์ ติ้งหวัง ชาว จ.สตูล โจทก์ที่ 2  กล่าวว่า ตนนั่งเครื่องบินมาฟ้องคดีนี้โดยเฉพาะ ซึ่งตนมีร้านขายอาหาร ปกติจึงไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเองที่บ้าน และตัดสินใจซื้อกระทะโคเรียคิงหลังจากที่ได้เห็นโฆษณา เพื่อเอาไว้ใช้ทำอาหารเล็กๆน้อยๆ โดยซื้อมาในราคา 3,300 บาท แต่เมื่อปรากฏเป็นข่าวดังภายหลังว่า กระทะรุ่นนี้นำเข้ามาในราคาเพียง 289 บาท เห็นว่าเหมือนพวกเราโดนกระทำ เพราะตอนแรกโฆษณาบอกชัดเจนว่าราคาเต็ม 15,000 บาท ลดเหลือ 3,300 บาท ก็ดีใจคิดว่าเดิมกระทะราคาคงแพงแล้วซื้อสินค้าได้ในราคาถูก