ข่าว

ไวตามิ้ลค์ทุ่ม4พันล้านขานรับเทรนด์สินค้าสุขภาพ

ไวตามิ้ลค์ทุ่ม4พันล้านขานรับเทรนด์สินค้าสุขภาพ

17 มิ.ย. 2560

ไวตามิ้ลค์ ขานรับเทรนด์สินค้าสุขภาพ ทุ่ม 4,000 ล้าน ดันยอดโต5-8%

 

นายประจวบ ตยาคีพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสายงานรัฐกิจและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท กรีนสปอต จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องดื่มนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์และน้ำอัดลมกรีนสปอต เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ แบรนด์ไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชีย และแอฟริกาภายในปี 2563 จึงได้เดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ด้วยการทุ่มงบประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตนมถั่วเหลืองบนเนื้อที่ 80 ไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรมหนองแค จังหวัดสระบุรี ซึ่งจะเดินเครื่องการผลิตภายในเดือนนี้

ทั้งนี้ การเดินเครื่องผลิตดังกล่าว จะทำให้เพิ่มกำลังการผลิตนมถั่วเหลืองไวตามิ้ลค์ เพิ่มอีก 30% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 450-500 ล้านลิตรต่อปี จากกำลังการผลิต 3 โรงงานในประเทศไทย และต่างประเทศ

“ถือเป็นการลงทุนใหญ่ในรอบหลายปี ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเรามองเทรนด์ผู้บริโภค มองโอกาสตลาดทั้งในและต่างประเทศ เป็นการเตรียมความพร้อมในการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพตอบสนองความต้องการตลาด"

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญเมื่อลงทุนเครื่องจักรมูลค่ามหาศาลจะต้องมีความยืดหยุ่นในการผลิตสินค้าได้หลากหลาย ไม่ใช่ผลิตสินค้าตัวเดียวตลอด ขณะเดียวกันบริษัทก็มีเป้าหมายจะผลักดันให้ยอดขายเติบโต 5-8% ต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่เป็นผู้นำตลาดนมถั่วเหลืองในเอเชียและแอฟริกา

นายประจวบ กล่าวว่า การลงทุนใหม่ดังกล่าว ยังเป็นการเตรียมพร้อมกับการผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยภายใน 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทมีเป้าหมายจะปรับสูตรสินค้าเพื่อสุขภาพทั้งหมด และมุ่งให้ได้รับตราสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” เป็น 9 รายการ (เอสเคยู) จากปัจจุบันมี 7 รายการ และล่าสุดเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาได้เปิดตัวไวตามิ้ลค์นมถั่วเหลืองสูตรกลมกล่อม ซึ่งได้รับผลตอบรับจากตลาดค่อนข้างดี

ขณะที่การปรับสูตรสินค้ายังให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่จะบังคับใช้กฎหมายภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ ในวันที่ 16 ก.ย.นี้

“บริษัทสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ที่ห่วงใยเรื่องภาวะผู้บริโภคชาวไทยน้ำหนักเกิน ดังนั้นตลอดเวลา 60 ปี ที่ขับเคลื่อนธุรกิจ บริษัทได้พัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย และจะร่วมมือขับเคลื่อนสังคมสุขภาพยั่งยืนกับการผลิตสินค้าให้ได้รับโลโก้ทางเลือกสุขภาพ แนวทางการตลาดก็มีโครงการรณรงค์ให้คนใส่ใจสุขภาพ ทำแคมเปญร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขไปสู่โรงเรียนเป้า 750 แห่งทั่วประเทศ แก่นักเรียน 1 ล้านคน เพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายถูกวิธี เป็นต้น”

สำหรับภาพรวมตลาดนมพร้อมดื่มทุกประเภททั้งนมถั่วเหลือง นมโค นมเปรี้ยว โยเกิร์ตพร้อมดื่มต่างๆ พบว่า มีมูลค่าตลาดรวมเกือบ7หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้หากเติบโตระดับ 3-5% ถือเป็นอัตราน่าพอใจ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ไม่ดีมากนัก 

ส่วนมาตรการจัดเก็บภาษีความหวานที่จะบังคับใช้ในกลางกันยายนนี้ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับตลาดเครื่องดื่มกลุ่มนมพร้อมดื่ม เนื่องจากยังเป็นสินค้าที่ได้รับการยกเว้นในการเก็บภาษีความหวาน แม้จะมีนมพร้อมดื่มรสช็อกโกแลต รสหวาน รสสตรอว์เบอร์รี่ต่างๆ เพราะรัฐยังมองเป็นสินค้าจำเป็นต่อการบริโภคอยู่