
รวบทันควันหนุ่มบุกรพ.จุฬาฯใช้คัตเตอร์แทงอริสาหัส
รวบแล้วหนุ่มวัย40 คัตเตอร์แทงเหยื่อบาดเจ็บในโรงพยาบาลจุฬา สารภาพแค้นใจ เหตุเคยโดนเหยื่อฟันนิ้วก้อยขาด แถมยังถูกรถเฉี่ยวจนกระดูกเท้าซ้ายแตก
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 พ.ค.2560 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ภูเมศ อั๊งสุวรรณกูล สว.สส.สน.ปทุมวัน พ.ต.ต.เอกรินทร์ อุปเวช สว.สส.สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ร่วมกันจับกุมนายรอง หรือเอซิกซ์ อารีจันทร์ อายุ 40 ปี ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสและเสพสารเสพติด โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ชุมชนบ่อนไก่ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ร.ต.ท.พงศ์พิทูร พาศรี รอง สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลจุฬา ว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาในโรงพยาบาล และใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายผู้อื่นบริเวณจุดรอรับบริการภายในตึกฉุกเฉิน เมื่อเดินทางไปถึงพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายอาจหาญ ทองสุข อายุ 30 ปี สภาพมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดหักคาที่บริเวณช่วงเอวเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แห่ง โดยมีแพทย์และพยาบาลผ่าตัดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนอาการปลอดภัย
จากการสอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทราบว่า นายรอง เดินเข้ามาโดยใช้ไม้ค้ำยัน และข้อเท้าซ้ายพันด้วยผ้าพันแผล พร้อมกับเดินเข้าไปหานายอาจหาญ ที่นั่งรอรับบริการอยู่ในตึกฉุกเฉิน จากนั้นได้ใช้มีดที่พกติดตัวมาแทงอย่างแรงไป 1 ครั้ง ทำให้มีดคัคเตอร์หักคาเอว ก่อนจะรีบวิ่งหลบหนีอย่างทะลักทุเลออกไปรวดเร็ว จากนั้นได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งต่อมาทราบว่าคนร้ายคือ นายรอง อารีจันทร์ พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าดังกล่าวจึงบุกเข้าไปจับกุมทันที
จากการสอบสวนนายรอง รับสารภาพว่า ก่อเหตุด้วยความโมโห และแค้นฝังใจ เพราะถูกนายอาจหาญ ใช้อาวุธมีดฟันนิ้วก้อยมือซ้ายขาด และกระดูกเท้าซ้ายแตก เนื่องจากโดนรถเฉี่ยวขณะวิ่งหลบหนีตอนถูกทำร้าย เมื่อประมาณกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ครั้งนี้เมื่อมาเจอนายอาจหาญ โดยบังเอิญขณะนั่งอยู่ในโรงพยาบาล จึงเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว เพื่อระบายความแค้น เพราะถูกกระทำก่อน ซึ่งนายอาจหาญเคยรู้จักกันมาก่อนเพราะอยู่ในชุมชนเดียวกันและจะมีปากเสียงทำร้ายร่างกายกัน
พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายรอง มีประวัติลักทรัพย์และประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด การก่อเหตุในครั้งนี้ถือว่าเป็นการท้าทายกฏหมายที่กระทำการภายในสถานพยาบาลที่มีประชาชนและบุคลกรของโรงพยาบาล ทั้งนี้ ได้ประสานให้ฝ่ายปราบปรามและสายตรวจ สน.ปทุมวัน เพิ่มมาตการความเข้มงวด เพื่อเฝ้าระวังเหตุไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายในโรงพยาบาล ทั้งยังได้ประสานกับโรงพยาบาล ให้เป็นหูเป็นตาในการป้องกันเหตุ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมนำผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ภายในวันที่ 13 พ.ค.ต่อไป