
เล็งปิดจุดไอ้เข้กบดาน-หวั่นนักท่องเที่ยวกวน
อธิบดีกรมอุทยานฯ เล็งปิดเส้นทางเดินป่าจุดพบจระเข้เขาใหญ่ หลังนักท่องเที่ยวแห่ชมเพียบ เผยอาจใช้อวนลากล่าตัวพิสูจน์เพศ-ดีเอ็นเอ
เมื่อวันที่ 8 กันยายน ภายหลังการประชุมร่วมระหว่างนายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ชุดติดตามจระเข้ 2 ตัว ที่พบในเส้นทางป่าผากล้วยไม้ ลำห้วยลำตะคอง ทางไปน้ำตกเหวสุวัต ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการติดตามจนพบตัวจระเข้อาศัยอยู่ในจุดที่นักท่องเที่ยวไปพบจริง เบื้องต้นเชื่อว่ามีจระเข้อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวอย่างน้อย 2 ตัว
"ขณะนี้ได้รับรายงานเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคในการจับตัวจระเข้ ว่ามีปัจจัยเรื่องน้ำหลากในระยะนี้ ทำให้ยากต่อการจับตัวจระเข้ขึ้นมาพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าเป็นสายพันธุ์น้ำจืดตามธรรมชาติ หรือเป็นลูกผสม จึงมีการเสนอให้จับจระเข้ในช่วงน้ำลดเดือนมีนาคมปีหน้า" นายเกษมสันต์ กล่าว
ส่วนประเด็นสงสัยอย่างจระเข้เป็นพันธุ์แท้หรือไม่ การจัดการ รวมทั้งแผนรองรับนั้น นายเกษมสันต์ กล่าวว่า กรมอุทยานได้เชิญนักอนุรักษ์และผู้เชี่ยวชาญด้านจระเข้ อย่าง นสพ.ปานเทพ รัตนากร นายประพันธ์ ยังประภากร รวมทั้งนักวิชาการจากกรมประมง มาให้คำแนะนำในการวางแผนเพื่อรองรับจระเข้เขาใหญ่ด้วย โดยเตรียมทำหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ เพราะยอมรับว่าการเคลื่อนย้ายสัตว์จะต้องมีความพร้อมทั้งการนำออกไปในสถานที่รองรับอื่นๆ ซึ่งก่อนจะไปถึงขั้นตอนนั้นได้ก็จำเป็นต้องหากรรมวิธีในการจับจระเข้มาตรวจให้ทราบผลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนเสียก่อน
“มีคำแนะนำจากผู้รู้ว่า อาจจะใช้วิธีการลากอวนทั้งหัวและท้ายตลอดลำห้วยลำตะคองที่เป็นที่อยู่ของจระเข้ และนำมาบรรจบกัน แต่ตรงนี้ต้องมีการประเมินพื้นที่เสียก่อนจะลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด และถ้าจับได้ก็จะสามารถเจาะเลือดพิสูจน์ และหาเพศของจระเข้ เพื่อใช้ในการวางแผนต่อไป ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถตอบอะไรได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าอาจจะปิดบริเวณเส้นทางเดินที่เป็นจุดอาศัยของจระเข้ชั่วคราวไปเลยหรือไม่ เพราะหลังจากมีข่าวก็ทำให้นักท่องเที่ยวแห่ไปดูจระเข้กันมาก และอาจเป็นอุปสรรคและขัดขวางการทำงานของทีมติดตามจระเข้ด้วย” นายเกษมสันต์ กล่าว