มอ.ปัตตานี เตือน นศ.เลี่ยงสถานที่ชุมชน | คมชัดลึก

 

          10 พ.ค. 60 - รศ.อิ่มจิต เลิศพงษ์สมบัติ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 นั้น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้

          "มหาวิทยาลัยขอแนะนำให้นักศึกษาและบุคลากรทุกท่าน ติดตามข่าวสารเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยไม่ตื่นตระหนก แต่เพิ่มความระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ขอให้เพิ่มการสังเกตสถานการณ์รอบตัว และหลีกเลี่ยงสถานที่มีผู้คนรวมตัวกันเป็นจำนวนมากทั้งนี้ ขอให้พิจารณาโดยรอบคอบก่อนตัดสินใจไปร่วม เพื่อความปลอดภัยของตนเอง"
          น.ส.ซูไรดา มามุ นักเรียนในพื้นที่จ.ปัตตานี กล่าวว่า  "เสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบในพื้นที่บ้านของเรา เขาใจดำมากที่มาทำร้ายคนบริสุทธิ์"  
          น.ส.รอฮานี ยีดำ นักเรียนโรงเรียนในพื้นที่ จ.ปัตตานี กล่าวว่า "คนร้ายเป็นคนทำ พวกเขาต้องการโชว์ ต้องการสร้างสถานการณ์ต้องการเรียกร้องความสนใจ"
          เขาขับรถมาแล้วเดินลงจากรถแบบไม่ปิดหน้าเลย เขากล้ามาก ไม่ปิดหน้าเลย ถ้าเขาโดนเจ้าหน้าที่จับจะสมน้ำหน้า พวกเขา จงใจทำแน่นอน เขาต้องการฆ่าคนบริสุทธิ์ ให้ตาย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มาวางระเบิดที่บิ๊กซี
          นายนาบีดี ชาวจ.ปัตตานี กล่าวว่า ชาวบ้านคือชาวบ้าน ไม่มีศัตรูและคิดร้ายกับทุกฝ่าย เขาขอแค่มีเงินให้สามารถเลี้ยงครอบครัวเขาลูกๆของเขาสามารถเรียนหนังสือเขาก็พอใจ เมื่อมีการก่อเหตุที่สาธารณะเช่นนี้ ประชาชน ทุกกลุ่ม คือเป้าหมาย คนที่มีศาสนาเขาไม่ทำเช่นนี้ 
          "ขอให้คนร้ายที่ทำได้หยุดก่อเหตุบริเวณที่มีประชาชนเป็นเป้าหมาย ทุกคนไม่เห็นด้วยและไม่ขอร่วมต่อการกระทำที่โหดร้ายเช่นนี้"

          เจ้าของร้านนาฬิกา Bos ในห้างบ๊กซี ปัตตานี กล่าวว่า บิ๊กซีปัตตานี ไม่ใช่บิ๊กซีของคนปัตตานีเท่านั่น คนจากนราธิวาส จากยะลา ก็มาเดินเที่ยวห้างบิ๊กซีแห่งนี้ ทำให้ที่นี่มีรายได้อันดับ1 ของประเทศเพราะมีการซื้อเยอะ เฉพาะร้านนาฬิกา ขายได้วันไม่ต่ำกว่า 4หมื่น ยิ่งถ้าช่วงเทศกาลจะได้หลักแสนเลย 
          "คนมาที่นี้เยอะ ทั้ง 3 จังหวัดแวะมาที่นี่หมด เพราะที่นี่เป็นห้างใหญ่ที่สุดของสามจังหวัด พอเป็นแบบนี้เศรษฐกิจเสียหายมาก แต่ชาวบ้านก็ต้องทนต่อไป ขอให้คนที่คิดจะทำแบบนี้หยุดเถอะคนเดือดร้อน"
          นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวว่า มูลนิธิฯขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นขอประนามผู้ก่อเหตุระเบิดดังกล่าวซึ่งได้ก่อความรุนแรงต่อพลเรือน เด็กและสตรีผู้บริสุทธิ์ โดยขอเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธไม่ว่าฝ่ายใดต้องหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธประหัตประหารและก่อเหตุรุนแรงที่อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตลอดจนทรัพย์สินของประชาชนและสาธารณะ รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามหลักกฎหมายและหลักการด้านสิทธิมนุษยชน.