
ยามเหนื่อยหรือท้อใจจะระลึกถึงในหลวง ร.9 เสมอ
ในหลวง ร. 9 ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาตลอดตั้งแต่ทรงครองราชย์ ไม่เคยหยุดพักเลย
สำหรับบรรยากาศการเดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ณ พระตำหนักดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 185 วันนี้เจ้าหน้าที่เปิดประตูพระบรมมหาราชวังเวลา 05.00 น.ให้พสกนิกรทั้งจากกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัดพะเยา, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเพชรบุรี ฯลฯ ได้เข้าแถวรออย่างเป็นระเบียบแม้จะมีอากาศร้อนอบอ้าวก็ตาม
นางจันทร์ฉาย สืบสวัสดิ์ อายุ 71 ปี อดีตพยาบาลโรงพยาบาลพะเยา เดินทางมาพร้อมเครือญาติ เปิดเผยความรู้สึกภายหลังเข้าสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า ตัวเองเดินทางมาจากจ.พะเยาด้วยรถทัวร์พร้อมหลานชาย ส่วนหลานสาวก็เดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่แล้วนัดพบกันกับน้องสาวที่อยู่กรุงเทพฯ วันนี้เดินทางมาด้วยความตั้งใจหวังร่วมส่งพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สู่สวรรคาลัย เมื่อเข้าไปภายในพระบรมโกศเหลืองทองอร่ามสวยงามมาก ยิ่งทำให้ตัวเองซาบซึ้งและเศร้าโศกอาลัยไปพร้อมกัน ส่วนบรรยากาศโดยรอบท้องพิธีสนามหลวงนั้น ก็รู้สึกดีใจที่เห็นประชาชนที่มีใจจงรักภักดีต่างพร้อมใจกันมาร่วมพระราชพิธีในครั้งนี้
“แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ได้สักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ครั้งงานพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ป้าได้เดินทางมาอยู่บ่อยครั้ง เพราะส่วนหนึ่งป้าเป็นพยาบาลอาสาในมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว.ด้วย โดยป้าร่วมงานพอ.สว.ตั้งแต่พ.ศ. 2514 จวบจนปัจจุบัน ก็ยังมีจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชนบทอยู่ ทั้งนี้ คำสอนของสมเด็จย่าที่ป้าน้อมนำมาใช้ในชีวิตคือ การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสเป็นหัวใจของความดี คือป้ายังคงเป็นพยาบาลอาสาตลอดจนขณะนี้ แม้ตอนนี้อายุมากแล้วแต่หากสิ่งใดที่ยังคงทำได้ป้าก็จะทำต่อไป ตลอดจนยังได้น้อมนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปพร้อมกัน ทำให้ทุกวันนี้ชีวิตไม่ต้องชวนขวายสิ่งใด เพียงแต่ยึดมั่นในการทำคุณความดีก็เพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือ การนำคำสอนเหล่านั้นถ่ายทอดสู่ลูกหลานให้พวกเขาได้นำไปปฏิบัติต่อไป" นางจันทร์ฉาย เผยความรู้สึก
ด้าน นางสาวอุไร แก้วผอม อายุ 53 ปี ผู้จัดการสวนสนุกคาเมล รีพับบลิค อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เดินทางเข้ากราบสักการะพระบรมศพพร้อมเพื่อนๆ กล่าวว่า ตัวเองได้ตั้งปฏิญาณไว้ว่าจะต้องมากราบสักการะพระบรมศพให้ได้ 9 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว สิ่งที่ทำให้ตั้งปฏิญาณเช่นนี้ เพราะการได้เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักมาตลอดการครองราชย์ 70 ปี เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ท่านได้กินดีอยู่ดี ตรงนี้จึงได้รักในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก
"ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรให้เกิดความพออยู่ พอกิน จึงมีแนวพระราชดำริและโครงการอันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริกว่าสี่พันโครงการให้ประชาชนนำไปเป็นแบบอย่างในชีวิตประจำวันได้ ส่วนตัวได้นำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนำแนวพระราชดำรินี้ไปสอนให้กับลูกหลาน ให้รู้จักพอดี ไม่เกินตัว อีกหนึ่งแนวพระราชดำริที่นำไปใช้คือ เกษตรทฤษฎีใหม่ เนื่องจากตัวเองเป็นคนต่างจังหวัด พอจะมีพื้นที่ว่างอยู่ จึงนำเกษตรทฤษฎีใหม่ มาประยุกต์ใช้และนำเศรษฐกิจพอเพียงเป็นกรอบแนวคิด มีการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงปลา ไก่ แบบครบวงจร โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถทำได้จริงและเห็นผลเป็นรูปธรรม" น.ส.อุไร กล่าว
ขณะที่ นางสาววรัญญา นิ่มเจริญ อายุ 36 ปี ประชาชนจากเขตบางนา หนึ่งในพสกนิกรที่เดินทางมากราบพระบรมศพในวันนี้ เผยว่า ในโอกาสที่วันนี้เป็นวันหยุดจึงชักชวนเพื่อนเดินทางมากราบพระบรมศพด้วยกัน มาถึงที่สนามหลวงตั้งแต่เวลา 07.00 น. ก่อนได้เข้ากราบพระบรมศพเวลา 09.00 น. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ากราบพระบรมศพ ที่ผ่านมาเพียงแต่เดินทางมาตั้งจิตอธิษฐานน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ข้างกำแพงพระบรมมหาราชวังเท่านั้น วันนี้รู้สึกดีใจและทราบซึ้งเป็นอย่างมากจนถึงน้ำตาคลอเบ้าในขณะก้มลงกราบ คิดว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่เกิดมาในรัชกาลที่ 9 อยากมากราบพระบรมศพพระองค์ท่านสักครั้ง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้เฝ้าฯ รับเสด็จพระองค์ท่านมาก่อน ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักมาตลอดตั้งแต่ทรงครองราชย์ ตัวเองเกิดมาก็เห็นท่านทรงงานเพื่อประชาชนไม่เคยหยุดพัก ท่านจึงทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของความเพียร ความอดทนในการงาน ตัวเองทำงานด้านการบริการลูกค้า ยามใดที่รู้สึกเหนื่อยใจหรือท้อใจ ก็จะระลึกถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อยู่เสมอ