แห่รับซื้อ“มะไฟ”พันธุ์เหรียญทองส่งออกตปท. | คมชัดลึก

 

          2 พ.ค.60 พ่อค้าที่รับซื้อผลไม้ไทยเพื่อส่งออก ได้เดินทางเข้าขอใช้สถานที่โรงจอดรถและบริเวณหน้าบ้านของนางรัตนา เสือน้อย เลขที่ 44 หมู่ 6 ตำบลขุนฝาง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อเปิดแผงรับซื้อมะไฟพันธุ์เหรียญทองของชาวสวนหมู่ 5 หมู่ 6 ตำบลขุนฝาง ออเดอร์มากถึงวันละ 10 ตัน หรือ 1 หมื่นกิโลกรัม ทำให้เงินสะพัดตำบลห่างไกลและเล็กๆ มากถึงวันละไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท   

 

     

          นางรัตนา กล่าวว่า หลังชาวสวน 2 หมู่บ้านกว่า 300 ครัวเรือน ตัดสินใจใช้วิธีการนำกิ่งมะไฟ พันธุ์เหรียญทอง เสียบต่อต้นมะไฟพันธุ์พื้นเมือง ที่นิยมปลูกมาก่อน เป็นการปลูกไม้ผลแบบผสมผสาน ตามแนวพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่9 และเลือกปลูกแบบปลอดสาร ไม่ใช้สารเคมีใดๆ และเน้นปลูกมะไฟให้เป็นพืชเศรษฐกิจของตำบล เนื่องจากสภาพพื้นที่ดินหุบเขา อากาศไม่ร้อนมาก แม้จะห่างไกลจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ และเป็นตำบลเล็กๆ

 

          การเสียบยอดใช้ระยะเวลาเพียง 3 ปี มะไฟให้ผลผลิตดีและกลายเป็นแหล่งปลูกมะไฟ พันธุ์เหรียญทองที่พ่อค้าประสานเข้ามารับซื้อ แต่หากนำกิ่งมาปลูกโดยตรงใช้เวลานานกว่า 10 ปี โดยปีนี้ผลผลิตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30 ตัน ต่อเกษตรกร 1 ราย ทำให้ชาวสวนมีร้อยยิ้ม กลับรายได้ มีเงินจ่ายค่าเทอม ค่าใช้จ่ายของลูกหลาน ในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่นี้ ซึ่งมะไฟเป็นผลไม้ที่ปลูกและดูแลง่าย ทนแล้ง ยิ่งอากาศเย็นและชื้นจะให้ผลผลิตดก หลังเก็บผลผลิต ชาวสวนจะทำมาทำมัดล้างน้ำให้สะอาดบรรจุใส่ลัง รวบรวมให้พ่อค้าที่นำรถบรรทุกมารับซื้อ

 

          อยางไรก็ตาม ที่เป็นข่าวดีและสร้างแรงกระตุ้นให้ชาวสวนใส่ใจ ดูแล บำรุง สวนมะไฟของตัวเองมากขึ้น ผลผลิตที่พ่อค้าเดินทางมารับซื้อ รับแบบไม่คัดเกรด และผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ วันละ 10 ตัน หรือ 150 ลัง บางวันมีไม่พอ โดยรับซื้อราคากิโลกรัมละ 20 - 25 บาท ผลผลิตดังกล่าวนอกจากจะนำส่งตลาดไท กรุงเทพฯแล้ว ยังส่งออกผ่านจุดผ่อนปรนช่องภูดู อำเภอบ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ไปยัง สปป.ลาว และส่งต่อไปจำหน่ายที่ประเทศจีน ทำให้เงินสะพัดในตำบลเล็กๆ มากถึงวันละ 2 แสนบาท