เปิดเวทีประชันเสียงสานฝันผู้พิการ | คมชัดลึก

     ยิ่งใหญ่อลังการสมเป็นเวทีคนพิการประกวดร้องเพลงรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศกับโครงการ “พิชิตฝัน..สู่ดวงดาว” ที่เปิดโอกาสให้คนพิการทั่วประเทศ ผู้มีใจรักการร้องเพลงได้ก้าวเข้าสู่ถนนบันเทิง ขึ้นแท่นเป็นศิลปินคนใหม่ในครอบครัวค่ายอาร์สยาม ซึ่งจัดขึ้นบริเวณลานกิจกรรมชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์ วันค่ำคืนก่อน โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิด พร้อมด้วย ไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และ ศุภชัย นิลวรรณ กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ร่วมจัดงาน

ไมตรี อินทุสุต-สมชาย เจริญอำนวยสุข-พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว-ศุภชัย นิลวรรณ

    สำหรับโครงการนี้เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมามีผู้สนใจยื่นใบสมัครเข้าร่วมมากกว่า 140 คน และมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 24 คนบรรยากาศภายในงานอบอุ่นและชื่นมื่น ผู้สมัครแต่ละคนต่างโชว์พลังน้ำเสียงสุดยอด ทำเอาสะกดคนทั้งงานไว้อยู่หมัด ซึ่งท้ายที่สุดคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะ 5 รางวัล ได้แก่ “น้องปุ้ย” สัมฤทธิ์ ทานประสิทธิ์ คว้าทั้งรางวัลชนะเลิศควบคู่รางวัลขวัญใจมหาชน ได้รับเงินรางวัลพร้อมรับโล่รางวัลไปครอง แถมได้สิทธิ์ออกซิงเกิ้ลเพลงกับค่ายอาร์สยาม ขณะที่ ศักดิ์ศิลป์ สิงห์บุรมย์ คว้ารางวัลรองชนะเลิศและผู้ที่ได้รางวัลชมเชย 3 รางวัล ได้แก่ ฐิติมา มีขุนทด, วุฒิชัย เซิ้งสูงเนิน และ จันทร กิตติกุล

ศักดิ์ศิลป์ สิงห์บุรมย์ 

     หลังจากประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลแล้ว พล.ต.อ.อดุลย์ ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีและเป็นกำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 คน รวมถึงคนพิการทุกคนที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ได้โอกาสก้าวสู่การเป็นศิลปินนักร้องอาชีพ แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพการร้องเพลงและดนตรีที่เท่าเทียมกับคนในสังคม จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการเหล่านี้ ทำให้มีอาชีพและรายได้มั่นคงยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อพร้อมออกสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิ

สัมฤทธิ์ ทานประสิทธิ์ 

    ด้าน “น้องปุ้ย” สัมฤทธิ์ วัย 37 ปี สาวผู้พิการทางการมองเห็น เจ้าของรางวัลชนะเลิศและรางวัลขวัญใจมหาชน เปิดใจให้ฟังว่า บ้านเกิดอยู่ จ.ชัยภูมิ ปัจจุบันย้ายมาอยู่ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี รักการร้องเพลง ชื่นชอบดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ แม้สายตาจะมองไม่เห็น แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ ฝึกซุ่มซ้อมเสียงเรื่อยมาจนทุกวันนี้ทำงานรับจ้างร้องเพลงกับวงตรีไดมอนด์ รู้สึกดีใจมากที่ได้รับถึง 2 รางวัลอันทรงเกียรติ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้หายเหนื่อยแล้วมีพลังก้าวเดินต่อไป