กรมป่าไม้ สรุป 694 รีสอร์ทบุกรุกป่าสงวนเขาค้อ เพชรบูรณ์ | คมชัดลึก

      นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานเปิดการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติในท้องที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง กรณี นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้โพสต์ภาพถ่ายทางอากาศที่ อ.เขาค้อ ลงในเฟสบุ๊ค โดยระบุว่ามีรีสอร์ทตั้งอยู่บนที่ดินจัดให้ราษฎรอาสาทำกินในการทำเกษตร แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่กระทำผิดได้ พร้อมกล่าวหาว่ารัฐบาลเลือกปฎิบัติ 2 มาตรฐาน โดยเปรียบเทียบกับพื้นที่ อ.ภูทับเบิก ที่ใช้อำนาจมาตรา 44 ณ ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์

      นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า ทางกรมป่าไม้ได้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบว่า เป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อ ป่าวังชมภู และป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520-2533 จำนวน 5 ครั้ง 8 แปลง เนื้อที่รวม 126,368 ไร่ เพื่อจัดสรรให้ราษฏรอาสาสมัคร (รอส.) อยู่อาศัยทำกินตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาปี พ.ศ.2555 จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ได้ทำหนังสือถึงกรมป่าไม้เพื้อส่งมอบพื้นที่คืนบางแปลง และ รอส. ว่ามีแปลงที่ปฎิบัติถูกต้องตามเงื่อนไขและแปลงที่ไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดกี่แปลง 

      อธิบดีกรมป่าไม้ เผยต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาป่าก่อ และป่าวังชมพูและป่าสงวนแห่งชาติเขาโปลกหล่น ในท้องที่ อ.เขาค้อ มีจำนวน 694 ราย อยู่ในพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์ จำนวน 631 ราย และมีการตรวจยึดดำเนินคดีแล้ว 51 ราย และอยู่นอกพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้จำนวน 63 ราย และได้ดำเนินคดีไปแล้ว 36 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกจำนวน 27 ราย / ภาพ วัชรชัย คล้ายพงษ์ Nation Photo