
รวบพ่อค้านาฬิกาหัวใสหลอกขายแบรนด์เนมปลอม
ใช้ชิ้นส่วนนาฬิกาแบรนด์เนมมาประกอบกับของปลอมโพสต์ผ่านเน็ต
เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ทองเปลว หาญไพบูลย์ สว.สส.สน.ทองหล่อ และร.ต.อ.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ รอง สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันนำกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวนสน.ทองหล่อ จับกุมนายวรเดช สิริมหาวงศ์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาขายนาฬิกาแบรนดเนมปลอม
สืบเนื่องจากมีคนร้ายหลอกขายนาฬิกาแบรนด์เนมปลอมผ่านทางเว็บไซต์ขายสินค้าในอินเตอร์เน็ตชื่อดัง ให้กับนักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน และนัดพบเพื่อรับสินค้าในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ต่อมาผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าเป็นนาฬิกาปลอมแปลง ทำให้สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนหลายหมื่นบาท จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ จากนั้นทางร.ต.อ.มานะพงษ์ สืบหาเบาะแสจนพบว่าผู้ต้องหารายนี้ยังได้ก่อเหตุลักษณะนี้กับผู้เสียหายรายอื่นอีก กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 1703/28 หมู่บ้านนันทวัน สุขุมวิท ถนนอ่อนุช 44 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ต่อมาวันที่ 23 เม.ย. เวลาประมาณ 12.30 น. ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพระโขนงที่ ค.46/2560 ลงวันที่ 21 เม.ย. 2560 เข้าตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีนายวรเดช อาศัยอยู่และแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ตำรวจจึงทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบของกลางทั้งหมด จึงควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ
จากการสอบสวน นายวรเดช สารภาพว่า มีอาชีพค้าขายนาฬิกาแบรนด์เนมปลอมที่มีคุณภาพคล้ายของแท้ “ก็อปเกรดเอ”โดยมีหน้าร้านอยู่ที่ห้างดังย่านปทุมวัน แต่รายได้ไม่ค่อยดี ลูกค้าลดน้อยลง ประกอบกับค่าเช่าที่แพง จึงขายแผงเช่าทิ้ง และหันมาขายผ่านทางเว็บไซต์ขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตแทน
นายวรเดช กล่าวว่า ตนมีความรู้และคลุกคลีในวงการค้านาฬิกามายาวนาน เห็นช่องทางรวยทางลัด ด้วยการซื้อนาฬิกาปลอมมา แล้วนำชิ้นส่วนบางชิ้นจากนาฬิกาแบรนด์เนมแท้มาดัดแปลงประกอบเข้าด้วยกัน จากนั้นถ่ายภาพและโพสขายในเว็บไซต์ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นสินค้าของแท้ ขายราคาถูกกว่าตลาด ส่วนใหญ่จะเป็นแบรด์ราคาระดับกลาง อาทิ โอเมก้าและแท็ค ฮอยเออร์ ทำให้มีผู้ที่ชื่นชอบสะสมนาฬิกาหลงเชื่อเข้ามาติดต่อขอซื้อในราคาประมาณ 5-6 หมื่นบาท
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ในการโพสต์ขายแต่ละครั้งจะใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนชื่อแล้ว แต่ไม่ใช่ชื่อของตนเอง เพื่อหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อ รวมทั้งจะใช้ช่องทางการติดต่อเพียงการโทรศัพท์เท่านั้น และจะนัดพบเพื่อตกลงสินค้า ไม่มีการโอนเงินผ่านทางธนาคาร เมื่อขายสินค้าตามที่ตกลงแล้วจะลบโพสต์พร้อมทิ้งหมายเลขโทรศัพท์นั้นทันที เพื่อไม่ให้มีร่องรอยติดตามตัวได้ จึงหลบหนีได้อย่างลอยนวล นอกจากนี้เจ้าตัวยังอ้างอีกว่าตนทำลักษณะนี้มาเพียง 3 ครั้ง และสำเร็จเพียงครั้งเดียว เนื่องจากส่วนใหญ่ตนจะขายสินค้าให้กับฐานลูกค้าเก่าที่ติดตามมา ซึ่งทราบดีว่าเป็นสินค้าปลอม
อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากมีความชำนาญเป็นอย่างมาก หากผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายรายนี้หลอกลวงลักษณะดังกล่าวสามารถติดต่อมายัง สน.ทองหล่อได้ทันที เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป