
ลาซาด้า ดันไทยฮับโลจิสติกส์เชื่อมเพื่อนบ้าน
ลาซาด้า ดันไทยฮับโลจิสติกส์เชื่อมเพื่อนบ้าน
“ลาซาด้า” ผนึกรัฐบาลไทย ผุด “อีคอมเมิร์ซ พาร์ค” ศูนย์กลางโลจิสติกส์ เขตพื้นที่เศรษฐกิจอีอีซี คาดเปิดให้บริการได้ปี 62 ย้ำความร่วมมือภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 หวังยกระดับเอสเอ็มอีไทย “อุตตม” เผยมีแผนผนึกความร่วมมือลาซาด้าอีกหลายโครงการ ขณะพาณิชย์จีบรัสเซียลงทุนอีอีซี
ภายหลังการร่วมลงนามระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป และ รัฐบาลไทย เมื่อเดือน ธ.ค.2559 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ลาซาด้า ประเทศไทย เป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่มอาลีบาบา กรุ๊ป และดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยังคงยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนร่วมผลักดันการพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี พร้อมให้ทั้งความสนับสนุนต่อนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล
นายอเล็กแซนดรอ บิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทลาซาด้า ภายใต้กลุ่มอาลีบาบา กรุ๊ป ได้ประกาศแผนการก่อตั้งโปรเจคอีคอมเมิร์ซ พาร์ค ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2562 โดยโปรเจคนี้จะเป็นประตูเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ที่เปิดสู่ตลาดนานาประเทศ ทั้งยังอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อด้านการขนส่งโดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม
โครงการอีคอมเมิร์ซ พาร์ค จะนำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ หรืออีโคซิสเต็มที่ดีที่สุดของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นระบบนิเวศฯชั้นนำในภูมิภาค เป็นจุดนัดพบของเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ผู้ผลิต ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางโลจิสติกส์ นอกจากนี้โปรเจคดังกล่าว จะเป็นศูนย์รวมที่นำโครงสร้างทางโลจิสติกส์และเทคโนโลยีขั้นสูงมาไว้ในที่เดียวกันในเขตอีอีซีเพื่อให้บริการอย่างครบวงจร
นายบิสชินี กล่าวว่า การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเขตอีอีซี หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของลาซาด้าครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนและเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบทบาทลาซาด้าและอาลีบาบาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
ทั้งยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบนิเวศ หรือ อีโคซิสเต็ม ที่รองรับเทคโนโลยีล่าสุดของประเทศไทย ไปพร้อมกับการบ่มเพาะและเตรียมความพร้อมให้กับนักธุรกิจยุคใหม่ที่รวมถึงกลุ่มสตาร์ทอัพและกลุ่มเอสเอ็มอี ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจบนโลกอินเทอร์เน็ต เพื่อตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
“ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมาตลอดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ลาซาด้าได้เข้ามาตั้งสำนักงานในไทย ซึ่งลาซาด้ามุ่งมั่นให้การสนับสนุนเพื่อพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 อันเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญให้กับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่มีการคาดการณ์มูลค่าของตลาดว่าจะสูงถึง 5,300 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2564”
ขณะที่ ในระยะยาว ลาซาด้ามีวิสัยทัศน์มุ่งมั่น สร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และแบรนด์สินค้าไทยในการก้าวสู่โลกอีคอมเมิร์ซ ผนวกกับการยกระดับความสามารถด้านโลจิสติกส์ สิ่งเหล่านี้ นับว่า เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยมีความสามารถในการรองรับการเจริญเติบโตของอีคอมเมิร์ซได้ในอนาคต
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ความร่วมมือของลาซาด้าที่มีแผนงานร่วมก่อตั้งอีกหลากหลายโครงการในอนาคต เพื่อสนับสนุนอีคอมเมิร์ซและเสริมความแข็งแกร่งให้กับเอสเอ็มอีไทย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ไทยประสบความสำเร็จในการนำประเทศไทยเดินหน้าไปตามแผนนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0
โดยหนึ่งในโครงการดังกล่าว คือ การที่ลาซาด้าได้ร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย ในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพระบบการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและความต้องการของอีคอมเมิร์ซ
นอกจากนี้ ลาซาด้ายังได้ทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย โดยได้จัดโปรแกรมการพัฒนาศักยภาพทางอีคอมเมิร์ซที่เหมาะสมกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย
ทั้งยังสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยได้รับประสบการณ์จากโปรแกรมการพัฒนาในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น อาทิ การส่ง 5 สุดยอดผู้ค้าออนไลน์จาก ลาซาด้า ประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมเวิร์คช็อปกับอาลีบาบา แคมปัส ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา