บุรีรัมย์-ชาวบ้านประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสทั้งรื้อถอนศาลาพักศพเพื่อสร้างใหม่ขณะอีกฝั่งคัดค้าน ตร.ต้องเข้าระงับหวั่นบานปลาย
บุรีรัมย์ชาวบ้านประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสทั้งรื้อถอนศาลาพักศพเพื่อสร้างใหม่ขณะอีกฝั่งคัดค้าน ตร.ต้องเข้าระงับหวั่นบานปลาย
ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ประท้วงขับไล่เจ้าอาวาส พร้อมเข้ารื้อถอนศาลาพักศพหลังเดิมเพื่อก่อสร้างใหม่อ้างทรุดโทรม โดยไม่สนใจคำทักท้วงของเจ้าอาวาสและชาวบ้านอีกฝั่งที่คัดค้านจนเกิดการโต้เถียง ตร.ต้องเข้าเคลียร์พร้อมระงับการรื้อถอนหวั่นบานปลาย จนกว่าทางอำเภอจะเรียกทั้งสองฝ่ายเจรจาและได้ข้อยุติ
ผู้นำชุมชน และตัวแทนชาวบ้านจาก 4 หมู่บ้าน ในตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันประท้วงขับไล่เจ้าอาวาสวัดปราสาทบูรพาราม ต.จระเข้มาก โดยกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการบริการจัดเงินวัด พร้อมทั้งเข้าทำการรื้อถอนศาลาพักศพหลังเก่า ที่ตั้งอยู่ข้างเมรุเผาศพ โดยชาวบ้านอ้างว่าเป็นมติของผู้นำชุมชน และตัวแทนชาวบ้าน ทั้งได้นำหนังสือมายืนยันด้วยว่า การเข้ารื้อถอนได้รับอนุมัติจากเจ้าคณะตำบลจรเข้มากแล้ว เนื่องจากศาลาพักศพหลังดังกล่าวก่อสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว ทำให้มีสภาพเก่าทรุดโทรม ทั้งมีขนาดเล็กไม่เพียงพอรองรับผู้คนที่มาร่วมงานฌาปนกิจศพในแต่ละครั้ง ทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านบางส่วนจึงมีความเห็นตรงกันว่า ควรจะรื้อถอนออกแล้วทำการก่อสร้างปรับปรุงใหม่ แต่ระหว่างที่ชาวบ้านเข้าทำการรื้อถอนศาลาพักศพ ทางเจ้าอาวาสวัดปราสาทบูรพาราม และชาวบ้านบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ก็ได้ออกมาคัดค้านให้หยุดทำการรื้อถอน พร้อมทักท้วงว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอน เพราะการจะรื้อถอนหรือก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ภายในวัด จะต้องมีการขออนุญาตจากกรมศิลปากรก่อน เนื่องจากวัดตั้งอยู่ในเขตโบราณสถาน จนเกิดการโต้เถียงกันระหว่างชาวบ้านทั้งสองฝ่าย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบัว จึงได้เข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับทั้งสองฝ่าย พร้อมให้ระงับการรื้อถอนศาลาพักศพไว้ก่อนชั่วคราว จนกว่าทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการพูดคุยเจรจาและหาข้อยุติที่ชัดเจนอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งบานปลาย จากนั้นชาวบ้านจึงยอมยุติการรื้อถอนและแยกย้ายกันกลับ
นายตา พรมจารี อายุ 81 ปี ชาวบ้านฝั่งที่มาทำการรื้อถอนศาลาพักศพ กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านได้รวมตัวกันมารื้อถอนศาลาพักศพในครั้งนี้ เพราะต้องการจะก่อสร้างศาลาพักศพหลังใหม่ให้ได้มาตรฐานและกว้างขวางขึ้น เพราะหลังเดิมมีสภาพทรุดโทรมคับแคบแล้ว แต่กลับถูกเจ้าอาวาสและชาวบ้านบางส่วนคัดค้าน ทั้งนี้ยังอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของเจ้าอาวาสด้วย ว่าโปร่งใสเกิดประโยชน์กับวัดหรือไม่ หากพบพฤติกรรมไม่โปร่งใสก็อยากให้นิมนต์ออกจากวัด
ขณะที่นางยุวรินทร์ พงศ์ภร อายุ 49 ปี ชาวบ้านโคกเมือง ม.6 ต.จรเข้มาก ที่ไม่เห็นด้วยกับการรื้อถอนศาลาพักศพ กล่าวว่า ที่ชาวบ้านออกมาคัดค้านการรื้อถอนศาลาพักศพนั้น เพราะทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่ร่วมกันทำการรื้อถอนไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง เพราะการจะรื้อถอนหรือก่อสร้างสิ่งปลูกใดภายในวัดจะต้องขออนุญาตกรมศิลปากรก่อน เนื่องจากวัดตั้งอยู่ในเขตโบราณสถาน และยืนยันว่าทางเจ้าอาวาสและชาวบ้านไม่ได้คัดค้านการก่อสร้างศาลาพักศพหลังใหม่ แต่อยากให้พูดคุยให้เข้าใจและดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน ทั้งยืนยันด้วยว่าการบริการจัดการเงินวัด มีการตั้งกรรมการดูแลทั้งฝ่ายฆราวาสและทางวัดตามระเบียบ เจ้าอาวาสไม่ได้ดำเนินการโดยพละการตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งมีหลักฐานสามารถตรวจสอบได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง