ข่าว

แข้ง“บราซิลเลียน”สุดเจ๋งในพรีเมียร์ลีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลังจาก “ฟิลิปเป คูตินโญ” แนวรุกตัวเก่งของลิเวอร์พูล สร้างตำนานกลายเป็นนักเตะชาวบราซิเลียนที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อย

      ไม่เฉพาะ คูตินโญ เพื่อนร่วมทีมชาวบราซิลเลียนของเขาอย่าง “โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน” เองในฤดูกาลนี้ก็สร้างผลงานได้อย่างยอดเยีย่มไม่แพ้กัน
ว่ากันว่าพรีเมียร์ลีก เป็นหนึ่งใน “หลุมดำ” ที่นักเตะแซมบ้า มักมาพุ่งชนความล้มเหลวที่นี่ แต่ก็มีนักเตะบราซิลอีกไม่น้อยเหมือนกันที่มาประสบความสำเร็จกับลีกสูดของอังกฤษ

จูนินโญ เปาลิสตา (มิดเดิลสโบรซ์)

     จูนินโญ เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนแข้งบราซิลเลียนคนแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับฟุตบอลอังกฤษเลยก็ว่าได้ หลังจากที่โชว์เพลงแข้งได้อย่างสุดสะเด่าในฟุตบอลอัมโบร คัพ ปี 1995 ที่ประเทศอังกฤษ จึงกลายเป็นที่หมายตาของบรรดาสโมสรในพรีเมียร์ลีกทันที แต่ท้ายที่สุดกลายเป็นทีมเล็กแต่ใจถึงอย่างมิดเดิลสโบรซ์ คว้าแนวรุกจากเซาเปาโลไปด้วยค่าตัว 4.75 ล้านปอนด์
     จูนินโญ เล่นกับ มิดเดิลสโบรซ์ เกือบๆสองฤดูกาลทำไป 15 ประตูจาก 69 นัดและช่วยให้ทีมสิงห์แดงเข้าชิงฟุตบอลถ้วยถึงสองรายการคือ ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ ในปี 1997 แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ได้แค่รองแชมป์ทั้งสองถ้วย ที่สำคัญมิดเดิลสโบรซ์ ต้องหล่นจากพรีเมียร์ลีก ทำให้เจ้าตัวต้องขอย้ายทีมไปสู่แอตเลติโก มาดริด จากสเปนด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์
แต่วาสนาขอจูนินโญกับทีมสิงห์แดงเหมือนจะผูกติดกัน เขาได้กลับมาเล่นในถิ่นริเวอร์ไซต์อีกสองครั้งในฤดูกาล 1999-2000 จากนั้นปี 2002 เดอะ โบโร่ ซื้อจูนินโญ คืนถิ่นอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งดาวเตะร่างจิ๋วก็ประสบความสำเร็จกับทีมจนได้ โดยสามารถพาทีมคว้ามแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จในปี 2004

จิลแบร์โต ซิลวา (อาร์เซนอล)

     จิลแบร์โต อาจเป็นนักเตะบราซิลเลียน ที่ไม่ได้มีลีลาการเล่นที่เร้าใจอะไร แต่ก็ประสบความสำเร็จมากมายในเวทีฟุตบอลอังกฤษ
โดยหลังจากพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกใน ปี 2002 อาร์เซนอลจึงไม่รอช้าคว้าตัวมาจากพานาธิไนกอส ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ ซึ่งจิลแบร์โต้ ซิลวา ก็ไม่ทำให้อาร์แซน เวนเกอร์ ผิดหวัง เป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2003-2004 ชนิดที่ไม่พ่ายแพ้แก่ทีมใด และรับใช้ต้นสังกัดไปทั้งสิ้น 6 ฤดูกาลด้วยกัน ลงเล่นไปมากกว่า 230 นัด และได้แชมป์ เอเอฟคัพ 1 ครั้ง คอมมูนิวตี้ ชิลด์ 2 ครั้ง และ รองแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนสลีก 1 ครั้ง

ออสการ์/วิลเลียน (เชลซี)

     เชลซี คว้าตัวของ ออสการ์ มาในปี 2012 จากอินเตอร์นาซินาล ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ หลังจากที่จับตามิดฟิลด์ รายนี้มานานทั้งการเล่นในระดับสโมสรและทีมชาติ ซึ่งตลอด สี่ฤดูกาลเศษๆกับเชลซีออสก้าก็มีผลงานที่สม่ำเสมอและเป็นผู้เล่นคนสำคัญทีมโดยเฉพาะในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ ลงเล่นให้กับทีมไป 203 นัด ยิงไป 38 ประตู ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก,ลีกคัพ และ ยูโรปาลีก กับทีมอย่างละ 1 ครั้งก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมเซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ในจีนด้วยค่าตัวมหาศาลกว่า 60 ล้านปอนด์
     ส่วน วิลเลียน ย้ายจาก อันจิ มาคัชคาลา ในรัสเซีย มาสู่ทีมสิงห์โตน้ำเงินครามในปี 2013 ด้วยค่าตัวประมาณ 30 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นกำลังสำคัญของทีมในยุคของโชเซ มูรินโญ เช่นเดียวกัน คว้าแชมป์กับทีมไปแล้ว ทั้งพรีเมียร์ลีก,ลีกคัพ อย่างละหนึ่งครั้ง ลงเล่นไป 169 นัด ทำไป 27 ประตู
     อย่างไรก็ตามในยุคของกุนซืออย่างอันโตนิโอ คอนเต้ วิลเลียน ต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญ เมื่อต้องขยับจากมิดฟิลด์ตัวรุกลงมาเล่นเป็นวิงแบ๊คเป็นส่วนใหญ่ แต่ดาวเตะวัย 28 ปี ก็ยังทำผลงานได้ดีและมีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งที่สองให้กับตัวเอง

แฟร์นันดินโญ (แมนฯซิตี)
     แฟร์นันดินโญ ย้ายจากชัคเตอร์ โดเนทส์ค ในยูเครนมาสู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ในปี 2013 ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์และได้กลายเป็นผู้เล่นที่เรียกได้ว่าเป็นลักษณะ “ปิดทองหลังพระ” ให้กับทีมมาโดยตลอด หากไม่บาดเจ็บหรือติดโทษแบน เฟอร์นันดินโญ คือตัวหลักของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย โดยขณะนี้ดาวเตะวัย 31 ปี รับใช้ทีมไปแล้ว 169 นัดทำไป 16 ประตู พาทีมเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก 1 ครั้ง และลีกคัพ 2 ครั้งด้วยกัน

      ในทางกลับกันยังมีผู้เล่นบราซิลอีกมากมายที่ล้มเหลวในเวทีพรีเมียร์ลีก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ทำผลงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ดาวิด ลุยซ์ ,รามิเรส, เอดู ฯลฯ ซึ่งแนวโน้มก็ดูเหมือนว่า นักเตะบราซิลเลียนกำลังทำผลงานได้มาตรฐานในฟุตบอลอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็อาจจะเป็นว่าปัจจุบันการที่มีนักเตะต่างชาติเข้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีกมากขึ้น รูปแบบการเล่นจึงไม่ได้เน้นแต่พละกำลัง หรือ โยนยาวอย่างเดียว ทำให้ทักษะและเทคนิคของนักเตะบราซิลจึงเข้ามาเติมเต็มในรูปแบบที่ขาดหายไปได้ดีนั่นเอง


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ