พระธรรมเทศนา เรื่อง “ปุญญกถา”
พระปริยัติวโรปการ เจ้าอาวาสวัดนาคกลาง กรุงเทพฯ แสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “ปุญญกถา”
วันที่ 13 เมษายน ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เจ้าพนักงาน ได้นิมนต์ พระปริยัติวโรปการ เจ้าอาวาสวัดนาคกลาง กรุงเทพฯ แสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “ปุญญกถา” ถวายในการบำเพ็ญพระกุศลพระบรมศพ ใจความว่า การสั่งสมซึ่งบุญนำสุขมาให้ คำว่าบุญแปลว่า เครื่องชำระสันดาน ความดี ความสุข ความประพฤติชอบทางกาย วาจา และใจ เป็นหลักในการสร้างกรรมดีทางพระพุทธศาสนา หากมองโลกตามความเป็นจริงทุกบ่อบุญทุกความดีนั้นทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ 7 ประการ ดังนี้ ประการแรก เพื่อกตัญญูบูชา กตัญญูบูชาคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการทำบุญทำความดีตอบแทนบูชาพระคุณของพระองค์ท่าน เพราะพระราชกรณียกิจ พระราชภารกิจ ที่ทรงบำเพ็ญเป็นคุณ เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และประชาชนนั้นมีมากมายสุดที่จะพรรณา
ประการที่ 2 เพื่อขอขมา ขอลาโทษ บาปกรรมที่เป็นความผิดน้อยใหญ่ ที่เราเคยประพฤติผิดพลาดทำลงไป ด้วยเจตนาก็ตาม ไม่มีเจตนาก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมาแล้วนั้น ท่านให้ทำบุญทำความดีเพื่อตอบแทนแก้ไขโดยการน้อมบุญที่ได้ทำแล้วนั้น เป็นเครื่องขอขมาขอลาโทษ ประการที่ 3 เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชน โลกนี้อยู่ได้ด้วยการให้ การเสียสละ การช่วยเหลือเกื้อกูล เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขความสงบร่มเย็น ความเจริญ การทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นการกระทำที่ประเสริฐที่สุด ประการที่ 4 เพื่ออุทิศบุญกุศล ซึ่งเป็นบุญกิริยา เป็นประเพณีที่ชาวพุทธถือปฏิบัติ เมื่อมีบุคคลที่ตนเคารพรักล่วงลับไปแล้ว
ประการที่ 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล ทางพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า มงคลแท้มงคลธรรมคือการประพฤติตามหลักศีล หลักธรรม การทำบุญแต่ละครั้งก็คือการสร้างสิริมงคลแก่ตนเอง ประการที่ 6 เพื่อชำระใจตนให้บริสุทธิ์ คือการชำระจิตใจของตนให้สะอาด สว่าง สงบ บริสุทธิ์ผ่องใสให้บริสุทธิ์ปราศจากบาปอกุศลต่างๆ และประการที่ 7 เพื่อสมบัติสูงสุด 3 ประการคือ มนุษย์สมบัติ สวรรคสมบัติ และนิพพานสมบัติ บุญที่ทำไปทุกบ่อบุญย่อมจะรวมตัวเป็นบารมีธรรมหนุนนำส่งเสริม เป็นเหตุปัจจัยนำพาให้ได้พบซึ่งสมับติทั้งสามประการ