ฆ่าสาวหมกบ่อเกรอะ-ตร.คาดฝีมือสามีใหม่ | คมชัดลึก

     วันนี้ (23 มี.ค.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 41/9 หมู่ 4 บ้านทุ่งเบี้ย ต.ขุนกระทิง อ.เมืองชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาและเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.วัชระ เผือกจันทร์ สวป.สภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยชุมพรการกุศลสงเคราะห์(สายชล) 

     พบที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น อยู่ติดกับถนนสายขุนกระทิง-โรงโม่ จุดพบศพอยู่บริเวณข้างบ้านภายในบ่อเกรอะ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือน.ส.ฉวีวรรณ รุ่งโรจน์ อายุ 35 ปี อยู่เลขที่ 79 หมู่ 6 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพคว่ำหน้าร่างคุดคู้อยู่ในบ่อปูนซีเมนต์ลึก 50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงนำร่างขึ้นมา โดยแพทย์ชันสูตรพบมีบาดแผลฉกรรจ์ถูกตีด้วยของแข็งบริเวณศีรษะจำนวนหลายแผล ใบหน้าบวมปูด มีรอยถูกของมีคมแทงเข้าลำคออีกหนึ่งแผล คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน ระหว่างนั้น ด.ญ.พลอย อายุ 14 ปี ลูกสาวของผู้ตายเมื่อเห็นสภาพศพผู้เป็นแม่ถึงกับร้องไห้โฮ โดยมีญาติเข้าโอบกอดปลอบขวัญอยู่ตลอดเวลา

     เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกโทรศัพท์ผู้เสียชีวิตตกอยู่ห่างจากบ่อเกรอะประมาณ 3-4 เมตร ใกล้กันมีกระต่ายขูดมะพร้าวสภาพขาหัก และมีเศษผมติดอยู่บริเวณหัวกระต่ายขูดมะพร้าวที่เป็นเหล็ก จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

     ด.ญ.พลอย ให้การว่า เวลาประมาณ 16.00 น. เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม ผ่านมา หลังกลับจากไปดูการแข่งขันกีฬาที่สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชุมพร พบกับพ่อเลี้ยงคือนายไกรรงค์ ใจดี อายุ 43 ปี เลยถามว่าแม่อยู่ไหน พ่อเลี้ยงตอบว่าแม่ไปทำธุระข้างนอกไม่นานก็กลับ พอตกเย็นพ่อเลี้ยงก็หายออกจากบ้านไปอีกคนจนกระทั่งตกดึกก็ยังไม่กลับ จึงโทรไปหานางมินทร์รฐา ปัญจพลวราธรณ์ ซึ่งเป็นญาติ เพื่อช่วยกันออกตามหาแต่ก็ยังไม่เจอ 

     จนช่วงบ่ายวันอังคารที่ 21 มีนาคม นางมินทร์รฐาได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองชุมพร และบอกญาติและเพื่อนๆ ให้ช่วยกันออกตามหาจนกระทั่งเวลา 09.00 น.วันนี้ (23 มี.ค.) ไปเจอปลอกโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตและกระต่ายขูดมะพร้าวเปื้อนเลือด จึงแน่ใจว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแน่ โดยมีนายวรพล บุญปรัญญาโอภาส เพื่อนผู้เสียชีวิตช่วยตามหากระทั่งพบศพ น.ส.ฉวีวรรณ ในบ่อเกรอะดังกล่าว 

     ด้าน พล.ต.ต.สนธิชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นสามีของผู้เสียชีวิตคือ นายไกรรงค์ ซึ่งอยู่กินกับผู้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ปี โดยมี ด.ญ.พลอยมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังเกิดเหตุ ทั้งนี้จะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

     สำหรับทั้งคู่ยึดอาชีพรับจ้างขุดดินถมที่ดิน ต่อมาระยะหลังไม่ค่อยมีงานจ้าง รายได้น้อยไม่พอกับรายจ่าย จึงเอารถแม็คโครและที่ดินไปจำนองไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง และยังหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ ประกอบกับนายไกรรงค์มีอาการทางสมองต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี อยู่บ่อยครั้ง แต่ทั้งสองคนยังขยันขันแข็งหันไปช่วยงานที่โรงเจแห่งหนึ่งในตำบลเดียวกันอยู่เสมอ