
"ผาสวนกวางฟาร์ม" เลี้ยงกวาง ทางเลือกใหม่ สร้างรายได้
"ผาสวนกวางฟาร์ม" จ.สุราษฎร์ธานี เลี้ยงกวางเสริมรายได้ พร้อมต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางเลือกใหม่เกษตรกรภาคใต้
นายเชวง สมพังกาญจน์ อดีตกำนันแหนบทองคำ และอดีตนายกอบต.ตำบลต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี หันหลังชีวิตการเมืองท้องถิ่น กลับมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวพัฒนาผืนดินกว่า 40 ไร่ ทำการเกษตรผสมผสาน ทั้งปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา สวนผลไม้ และที่สำคัญได้กันพื้นที่ไว้ประมาณ 5 ไร่ อยู่ติดกับเชิงเขาและหน้าผาที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ สร้าง "ผาสวนกวางฟาร์ม" ฟาร์มเลี้ยงกวาง สัตว์เศรษฐกิจที่เลี้ยงง่าย สร้างรายได้จากการตัดเขา ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด และคัดพ่อแม่พันธุ์ขายให้ผู้ที่สนใจนำสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่นี้ไปเลี้ยง
จากเดิมที่นำพ่อแม่พันธุ์ประมาณ 10 ตัว มาเลี้ยงไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว และซื้อมาเพิ่มเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้จำนวนมากขึ้นกว่า 170 ตัว เนื่องจากกวางเป็นสัตว์ที่ขยายพันธุ์เร็ว อายุประมาณ 2 ปี ก็เริ่มผสมพันธุ์ได้ กวางเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ทนต่อทุกสภาพอากาศ ที่สำคัญอาหารโดยเฉพาะหญ้า สามารถกินได้ทุกชนิด ไม่ต้องคัดแต่หญ้าชั้นดีมาป้อนเหมือนวัวชนหรือวัวพันธุ์ดีทั่วไป
ปัจจุบันมีรายได้จากการตัดเขากวางอ่อน เพื่อส่งจำหน่ายให้ตลาดที่มีความต้องการนำไปทำส่วนผสมของยาแผนโบราณ ยาบำรุงกำลัง และเครื่องประดับ โดยกวางตัวผู้สามารถทยอยตัดเขาได้เมื่อมีอายุ 2 ปี จากนั้นภายใน 80 วัน เขาก็จะเริ่มงอกใหม่ สามารถตัดขายต่อไปได้เรื่อยๆ ซึ่งเขากวางอ่อนมีราคากิโลกรัมละ 7,000 - 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเขา
กำนันเชวงเล่าว่า กวางไม่มีเส้นประสาทที่เขามีแต่เส้นเลือด กวางจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยและมีเลือดออกประมาณ 2-3 นาที หลังจากตัดแค่เพียงใส่ยา ปล่อยให้อยู่ตามปกติ ส่วนกวางตัวเมียนั้นจะเพาะขยายพันธุ์เป็นแม่พันธุ์จำหน่าย สร้างรายได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งพ่อแม่พันธุ์กวาง จะขายในราคาตัวละประมาณ 15,000 บาท โดยจะคัดตัวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ให้ลูกค้า เนื่องจากต้องการให้การเลี้ยงกวางเป็นทางเลือกใหม่แก่เกษตรกร และแม้ว่าในปัจจุบันจะมีคนนิยมบริโภคเนื้อกวางเพิ่มมากขึ้น แต่นายเชวงบอกว่าน้อยมากที่คนจะซื้อไปชำแหละขายอย่างเช่นเนื้อโดยทั่วไป ส่วนใหญ่จะซื้อไปเลี้ยงมากว่า
ผาสวนกวางฟาร์ม นอกจากจะมีกวางที่เลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในสุราษฏร์ธานีแล้ว และเนื่องจากพื้นที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ปัจจุบันได้ต่อยอดใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ เข้ามาศึกษาเรียนรู้ นำบุตรหลายมาเที่ยวชมให้อาหารกวาง ซึ่งสามารถเดินชมกวางได้อย่างไกล้ชิด โดยใช้กล้วยเป็นตัวล่อ เนื่องจากกวางเหล่านี้ชอบกินกล้วยเป็นพิเศษ "หากไม่มีกล้วยอยู่ในมือ เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่เข้ามาใกล้ ต้องใช้กล้วยที่ขายหน้าฟาร์มติดมือเข้ามาป้อนให้มันด้วย เป็นภาพที่น่ารักๆระหว่างคนกับสัตว์ชนิดนี้ ที่กำลังเป็นทางเลือกใหม่ ให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ ได้เรียนรู้ นอกเหนือจากปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว แค่ปาล์มน้ำมันและสวนยางพารา กำนันเชวง กล่าวที่งท้าย
เรื่อง - ภาพ จรูญ ทองนวล / NationPhoto