ข่าว

รถรับส่งนักเรียนชนมินิบัสตาย1เจ็บอื้อ

รถรับส่งนักเรียนชนมินิบัสตาย1เจ็บอื้อ

31 ส.ค. 2552

รถมินิบัสรับส่งนร. ชนท้ายรถตู้รับส่งนักเรียน พุ่งชนรถอีกคันก่อนแฉลบไปชนต้นไม้ข้างทางบนถนนสายปะทิว-ชุมพร ดญ.วัย 12 ขวบดับคารถ บาดเจ็บอีกนับสิบ ผอ.รร.สลด ผู้ตายเป็นนักเรียนดีเด่น -นักกีฬาวอลเล่ย์บอลระดับจังหวัดเพิ่งชนะเลิศระดับภาคใต้มาหมาดๆ

เหตุรถตู้รับส่งนักเรียน ชนกับมินิบัสรับส่งนักเรียน ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 31 สิงหาคม  พ.ต.ต.ดำรงค์ สงช่วย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ปะทิว จ.ชุมพร รับแจ้งอุบัติเหตุรถมินิบัสรับส่งนักเรียน ชนกับรถตู้รับส่งนักเรียน เหตุเกิดบนถนนสายปะทิว-ชุมพร ม.4 ต.บางสน อ.ปะทิว จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุ  ซึ่งอยู่ห่างจากบริษัทซีพี ประมาณ 50 เมตร พบรถตู้ ยี่ห้อเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน อห 4609 กรุงเทพมหานคร หน้ารถติดสติ๊กเกอร์สีส้มมีข้อความ “รับ-ส่งนักเรียน” สภาพรถด้านหลังฝั่งขวาพังยับเยิน  ส่วนหน้ารถชนอัดก๊อปปี้กับต้นไม้ข้างทาง มีเด็กนักเรียนนั่งที่เบาะหลังของรถเสียชีวิต 1 ราย คือ ด.ญ.โชติมา พูนมา อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/3 ม.3 ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา อ.เมืองชุมพร และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 10 ราย จึงช่วยกันนำส่ง ร.พ.ปะทิว ใกล้กันพบรถมินิบัส ยี่ห้อเบนซ์ สีม่วง ทะเบียน 30-0132 ชุมพร หน้ารถติดสติ๊กเกอร์สีส้มมีข้อความ “รับ-ส่งนักเรียน” เช่นกัน สภาพรถได้รับความเสียหายบริเวณกันชนหน้า

 จากการสอบสวนทราบว่า รถตู้คันดังกล่าวมี นายวรวิทย์ เทือกสุบรรณ อายุ 40 ปี มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นคนขับ  มีนักเรียน  20 คนโดยสารมาด้วย โดยนายวรวิทย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่ง ร.พ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ยังไม่สามารถให้การได้ ส่วนรถมินิบัส มีนายปราโมทย์ สีแสง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.8 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บแขนขวาหัก

 ก่อนเกิดเหตุรถทั้งสองคันกำลังนำเด็กนักเรียนจาก อ.ปะทิว ไปส่งตามโรงเรียนต่างๆ ใน อ.เมืองชุมพร โดยรถตู้ขับอยู่ด้านหน้า ส่วนรถมินิบัสขับตามหลังมาในระยะกระชั้นชิด  เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า รถตู้อาจจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าไปรับนักเรียนที่มีบ้านพักอยู่ภายในซอยด้านขวาของถนน ในขณะที่รถมินิบัสที่ขับตามหลังอาจกำลังเร่งเครื่องเพื่อขับแซงขึ้นทางขวา จึงทำให้รถมินิบัส พุ่งเข้าชนท้ายรถตู้อย่างแรง จนรถตู้เสียหลักพุ่งไปชนรถยนต์ที่กำลังขับออกมาจากซอยด้านขวาดังกล่าว ก่อนแฉลบไปชนต้นไม้ข้างทาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดโดยสารมากับรถตู้ ส่วนผู้ที่โดยสารมากับรถมินิบัสมีบางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบสวนให้แน่ชัดอีกครั้งว่า สาเหตุเกิดจากอะไร

 พ.ต.ท.ดำรงค์  กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่ารถตู้คันดังกล่าว บรรทุกนักเรียนไม่น้อยกว่า 15 คน  มาจาก อ.ปะทิว  มุ่งหน้าไปส่งนักเรียนในตัวเมือง พอมาถึงที่เกิดเหตุถูกรถมินิบัสชนท้ายอย่างแรง จนเสียหลักไปพุ่งชนต้นไม้ข้างถนนฝั่งตรงข้าม โดยรถมินิบัส มีนักเรียนนั่งมาไม่น้อยกว่า 35 คน จากบ้านมาบอำมฤต ต.ดอนยาง อ.ปะทิว หลังชนท้ายรถตู้แล้วคนขับรถมินิบัสได้ประคองรถไว้เพื่อไม่ให้เสียหลัก และหยุดจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยคนขับรถมินิบัสแขนหัก

 นอกจากนี้ยังมีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส ทะเบียน กข 6653 ชุมพร ที่ขับตามหลังรถมินิบัสดังกล่าวได้หักหลบจนเสียหลักไปชนกับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ทะเบียน ป 0088 ชุมพร ที่จอดอยู่ข้างทางได้รับความเสียหายเล็กน้อยด้วย ส่วนรถยนต์เก๋ง สภาพด้านหน้าพังยับ แต่คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย

 นายสมใจ สันติยานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา กล่าวว่า ด.ญ.โชติมา  เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน และเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอล ซึ่งเป็นตัวแทนระดับจังหวัดไปแข่งขันเพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาคใต้มา และอยู่ระหว่างเตรียมตัวไปแข่งขันวอลเล่ย์บอลระดับประเทศ ทางโรงเรียนและคณะครูอาจารย์รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนนักเรียนคนอื่นๆได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สามารถเข้าเรียนได้ตามปกติ มีเพียง 1 ราย ที่บาดเจ็บหนัก เป็นนักเรียนชั้น ม.5

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อต้นปี 2552  จังหวัดชุมพร กำหนดจุดในการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่รถนักเรียนชนกันห่างจากที่เกิดเหตุไปเพียง 100 เมตรเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านบางส่วนที่มามุงดูเหตุการณ์เข้าใจว่าเป็นการซ้อมแผนดังกล่าว  มีรายงานด้วยว่า พฤติกรรมของการใช้รถใช้ถนนในพื้นที่แม้ว่าจะเป็นถนนเชื่อมระหว่างอำเภอ แต่รถส่วนใหญ่จะใช้ความเร็วสูงมาก จึงมักเกิดอุบัติเหตุในเส้นทางนี้บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่ารถนักเรียนส่วนใหญ่ มักจะขับรถอย่างหวาดเสียวจนได้รับการร้องเรียนหลายครั้ง แต่ไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามากวดขันอย่างจริงจัง  และมีรายงานว่ารถคู่กรณีทั้ง 2 คัน อาจมีความขัดแย้งกันมาก่อนในเรื่องเด็กนักเรียนผู้โดยสารด้วย